POLITICS

รมช.เกษตรฯ แจง ไม่สามารถยกเลิกประกาศ GMO ได้ทันที

รมช.เกษตรฯ แจง ไม่สามารถยกเลิกประกาศ GMO ได้ทันที ย้ำ ต้องมีมาตรการครอบคลุมทุกด้าน ชี้ ออกประกาศใหม่ใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ยัน นำข้อเสนอไปหารือ รมว.เกษตรฯ ต่อ

วันนี้ (2 ต.ค. 68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นประธานในที่ประชุมวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา โดย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้มอบให้ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรฯ เป็นผู้ตอบกระทู้แทน

นายวรวัจน์ กล่าวถึงประกาศฉบับที่ 10/2553 ซึ่งเปิดทางให้นำเข้าพืชตัดต่อพันธุกรรม (GMO) เข้าในไทย ทั้งที่กฎหมายเดิมเคยห้ามมากว่า 60 ปี ส่งผลกระทบทำให้ราคาพืชผลลดลง รัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการประกันราคา จึงต้องการทราบว่า รัฐบาลจะยกเลิกประกาศทันทีหรือไม่ และรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร หากไม่มีการยกเลิกประกาศนี้ถือว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ทางธุรกิจของพวกกลุ่มทุนมากกว่าเกษตรกรใช่หรือไม่

นายอามินทร์ ชี้แจงว่า การยกเลิกประกาศไม่สามารถทำได้ทันที ต้องมีมาตรการควบคุมและความชัดเจนทางกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงร่างประกาศฉบับที่ 5, 8, 10 และ 11 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้มุ่งเพียงเรื่องพืชดัดแปลงพันธุกรรม แต่ยังครอบคลุมการนำเข้าพืชต่างประเทศ ทั้งด้านกฎหมาย วิชาการ สุขาภิบาลพืช และความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อให้การควบคุมรัดกุมและเหมาะสม

สำหรับการออกประกาศใหม่ ต้องใช้เวลา 1 ปี จนถึง 1 ปีครึ่ง โดยกระทรวงเกษตรฯ จะต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช เพื่อประเมินผลกระทบด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อม จากนั้นเสนออนุกรรมการด้านการนำเข้าสิ่งต้องห้ามเพื่อการค้า เพื่อพิจารณากิจการและความเหมาะสมของประกาศ รวมถึงแจ้งร่างประกาศต่อประเทศสมาชิกองค์การค้าโลก (WTO) เพื่อให้พิจารณาและรับทราบ และประกาศมติรัฐมนตรี หลังผ่านทุกขั้นตอนและตรวจสอบความเรียบร้อยครบถ้วน

“การนำเข้าข้าวโพดเกิดขึ้นจากผลผลิตในประเทศที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจำเป็นต้องรักษาการนำเข้าเพื่อรองรับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยในปี 2569 คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดสัตว์เลี้ยงได้กำหนดให้โรงงานอาหารสัตว์ต้องรับซื้อข้าวโพดในประเทศก่อน และกำหนดราคาข้าวโพดสัตว์เลี้ยงที่ความชื้น 14.5% อยู่ที่ 9.80 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนข้าวโพดที่ความชื้น 30% จากเกษตรกรผ่านผู้รวบรวมพื้นที่กำหนดราคา 7.05 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมทั้งมีการควบคุมและตรวจสอบการซื้อขายให้เป็นไปตามมาตรฐาน” นายอามินทร์ ระบุ

ทั้งนี้ นายอามินทร์ ยืนยันว่า จะนำข้อเสนอในการอภิปรายไปปรึกษาหารือกับ รมว.เกษตรฯ เพื่อปรับปรุงและออกประกาศต่อไป

Related Posts

Send this to a friend