‘อนุทิน’ เผย ในหลวง-พระราชินี ทรงห่วงใย รับผู้สูญเสียเหตุรถบัสไฟไหม้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
‘อนุทิน’ เผย ในหลวง-พระราชินี ทรงห่วงใย รับผู้สูญเสียเหตุรถบัสไฟไหม้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ย้ำ มหาดไทย พร้อมเยียวยาสูงสุด ขณะสำนักงานประกันภัย มอบ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย มอง ‘ทัศนศึกษา’ ไม่ใช่มูลเหตุ แต่เป็นเรื่องคุณภาพรถ-มาตรฐานคนขับ-การจัดรูปขบวน ชี้ รถบัสมีถังแก๊สนับสิบ ชัดเจนว่ามีการละเมิด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวถึงการพิจารณาเงินเยียวยาเหตุรถบัสไฟไหม้ว่า เรื่องของการช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.อุบัติภัย จะช่วยเรื่องการทำขวัญ โดยสำนักงานประกันภัยรายงานเบื้องต้นว่า จะมีเงินที่ชดเชยความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย ซึ่งต้องเร่งจ่ายเงินเยียวยานี้ให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการว่าเรื่องนี้มีความเสียหายมาก เป็นเรื่องที่มีระดับความรุนแรงอยู่ในระดับสูง ดังนั้นเกณฑ์การเยียวยาจะต้องหาทางเยียวยาในระดับสูงสุด
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งล่วงหน้ามาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใย และทรงสลดพระไทยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแจ้งมาว่าพระองค์จะรับการจัดการเรื่องงานทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จะมีการพระราชทานเพลิงให้กับผู้ที่สูญเสียชีวิตไป โดยกระทรวงมหาดไทยถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และตนเองได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีจัดการหน้างานให้สมเกียรติกับผู้วายชนม์ ซึ่งมีทั้งครู และนักเรียน
ส่วนข้อถกเถียงเรื่องการยกเลิกการทัศนศึกษา ส่วนตัวคิดว่าการไปทัศนศึกษาไม่ใช่มูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือเรื่องมาตรฐานของคนขับรถ มาตรฐานการจัดรูปขบวนในการเดินทาง คุณภาพของรถ กรณีนี้รถบัสถังแก๊สเยอะ นับดูเป็น 10 ถัง ก็ต้องไปดูว่ากฎหมายกำหนดไว้อย่างไร มีถังแก๊ซตั้งแต่หน้ารถ กลางรถ ท้ายรถ ข้างรถ มองว่าควรจะมีแผ่นเหล็กที่คอยกั้นไม่ให้ประกายไฟถึงตัว จะต้องเซฟตี้มากกว่านี้ เป็นพื้นที่นิรภัย มั่นใจว่ามาตรฐานของกรมขนส่งทางบกมีอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจสภาพมาอย่างไร ตำรวจต้องทำหน้าที่ขยายผล
นายอนุทิน ย้ำด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของทุกคน ต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด การไปทัศนศึกษาเป็นสิ่งที่ดี แต่การจัดรูปแบบทำอย่างไรให้ดีจริง ๆ ก็มีกฏอยู่ สามารถที่จะประสานขอรถตำรวจ รถทางหลวงนำได้ ต้องกำหนดเรื่องของความเร็ว เรื่องของผู้ใหญ่ที่อยู่ในรถที่จะสามารถคอยให้การช่วยเหลือเด็ก ๆ และกำหนดจำนวนคนขับรถ ซึ่งกรณีเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ช่วยคนขับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักรถเลย มีแต่ครูกับนักเรียน พอเกิดเหตุคนขับก็วิ่งลงมาดูก่อน ไม่มีผู้ช่วยปลดล็อคเปิดประตูฉุกเฉิน หรือถีบหน้าต่างเป็นช่องทางฉุกเฉิน ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการละเมิด