‘ธีรรัตน์’ กำชับ ปภ. – จังหวัด รับมือผลกระทบพายุ ‘คาจิกิ-หนองฟ้า’
‘ธีรรัตน์’ กำชับ ปภ. – จังหวัด รับมือผลกระทบพายุ ‘คาจิกิ-หนองฟ้า’ สั่งเร่งช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนโดยเร็ว
วันนี้ (2 ก.ย. 68) เวลา 08.00 น. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุคาจิกิ และพายุหนองฟ้า
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อประเมินสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ตลอดจนการสนับสนุนการช่วยเหลือให้รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ หากจังหวัดใดต้องการความช่วยเหลือให้รีบแจ้งมายังส่วนกลางโดยด่วน และหากพบพื้นที่เสี่ยงสูงที่ต้องประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด ให้ประสานมายัง ปภ. เพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ได้กำชับแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์ 5 ด้าน ได้แก่
1.ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีเหตุบ่งชี้ว่าอาจเกิดอุทกภัยให้รีบแจ้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เตรียมรับสถานการณ์ล่วงหน้า
2.ให้ทุกจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เตรียมความพร้อมรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
3.ทุกพื้นที่ต้องให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย หากมีผู้ติดค้างในพื้นที่ประสบภัย และหากประเมินจะเป็นอันตราย ให้อพยพนำออกจากพื้นที่โดยเร็ว กรณีมีเหตุดินโคลนถล่มให้เร่งค้นหาผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ให้ขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เร่งรัดการสูบระบายน้ำ
4.ให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรัด ลดขั้นตอน และระยะเวลาในการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัย
5.ให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกรองส่วนท้องถิ่น จัดทีมเข้าฟื้นฟบูรณะสภาพพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิม
สำหรับผลกระทบจากอิทธิพลพายุคาจิกิ ทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มใน 14 จังหวัด 40 อำเภอ 114 ตำบล 377 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบ 9,531 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย และพิษณุโลก มีผู้เสียชีวิต 10 ราย (เชียงใหม่ 8 รายจากดินถล่ม แม่ฮ่องสอน 2 รายจากจมน้ำ) มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย และพืชผลทางการเกษตรเสียหาย 649,960 ไร่
ผลกระทบอิทธิพลพายุหนองฟ้า เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด 37 อำเภอ 114 ตำบล 349 หมู่บ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ 192 ครัวเรือน ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำพูน ตาก ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู และชุมพร อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย













