‘มาริษ’ ถึงกรุงปารีส เตรียมร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้

‘มาริษ’ ถึงกรุงปารีส เตรียมร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผย ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดเวลา สั่ง ปลัด กต. รวบรวมหลักฐาน เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC ชี้ ผู้นำกัมพูชา ขอมติสภาฯ ส่งร้องศาลโลก ถือเป็นสิทธิ์ ย้ำ ไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตย และบูรภาพแห่งดินแดน
วันนี้ (2 มิ.ย. 68) เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (3 มิ.ย.)
นายมาริษ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า กระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ปลัด กต. เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่มีทุกอย่างในทิศทางเดียวกัน อยากเห็นนโยบายที่เราต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ไม่ขยายตัวไปสู่ความขัดแย้ง ต้องหาทางแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง
อย่างไรก็ตาม ได้ให้ ปลัด กต. คุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านกฎหมาย รวมถึงภาพถ่าย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบของ JBC ซึ่งจะหาทางออกได้หรือไม่ ไม่สามารถการันตีได้ แต่เป็นกลไกที่มีอยู่กับกัมพูชาในการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี
ทั้งนี้ ประเทศไทยผลักดันกัมพูชาขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชาต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเห็นความสำคัญของกลไกนี้ที่จะแก้ไขปัญหาในด้านการลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้น และการพูดคุยว่าจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร
ส่วนเรื่องการกระทบกระทั่งที่เกิดขึ้น เรามีหนังสือประท้วงกับฝ่ายกัมพูชาไปแล้วว่าการกระทำของเราเป็นไปตามหลักสากล และเราต้องการแสดงการยืนยันสิทธิของเราในเรื่องอำนาจอธิปไตย และบูรภาพแห่งดินแดน และพูดอย่างชัดเจนว่าเราดำเนินการด้วยความเหมาะสม เป็นไปตามกลไกของกฏหมายระหว่างประเทศ ปฏิบัติอย่างสากลทุกประการ
อย่างไรก็ตาม วันที่ 5 มิ.ย. ตอนกลับถึงประเทศไทย ได้กำหนดเรียกผู้บริหารทั้งหมดเพื่อประชุมกำหนดท่าทีของเราให้ชัดเจนอีกครั้ง ย้ำว่าประเมินสถานการณ์ และเรียกประชุมทางออนไลน์กับกระทรวงการต่างประเทศตลอดเวลาเมื่อมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง
ส่วนที่ผู้นำกัมพูชาขอให้สภาฯ ลงมติส่งข้อพิพาทไปยังศาลโลก ถือเป็นสิทธิที่กัมพูชาจะดำเนินการ และเป็นสิทธิของไทยที่เราจะตัดสินใจอย่างไร เพราะเราก็มีท่าทีชัดเจน ท้ายที่สุดได้ให้ปลัด กต. มองภาพรวมให้เห็นชัดเจน กำหนดท่าทีเพื่อวางนโยบายยุทธศาสตร์ที่จะไปเจรจากับกัมพูชา และกำหนดมาตรฐานของเราว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งในกรอบของทวิภาคีความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมทั้งใช้กลไกที่มีอยู่ระหว่างประเทศ