POLITICS

วุฒิสภาผ่านวาระแรกร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แล้ว

LGBTQ+ เฮ วุฒิสภาผ่านแล้ววาระแรกร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม 147 ต่อ 4 เสียง

วันนี้ (2 เม.ย.67) ในการประชุมวุฒิสภา มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือสมรสเท่าเทียม วาระแรก หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเสร็จแล้ว และส่งต่อมาให้วุฒิสภาพิจารณาต่อให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน หลังตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.66 ที่สภาผู้แทนราษฎรส่งมาให้

บรรยากาศการประชุม สว.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างกฎหมาย โดยนายวันชัย สอนศิริ ในฐานะคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรมจริยธรรม ศิลปและวัฒนธรรม วุฒิสภา อภิปรายว่าประเทศที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีไม่กี่ประเทศ และในประเทศมุสลิมไม่รับรองกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นควรจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยร่างกฎหมายนี้เป็นการรับรองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศ อย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่บังคับไม่ให้ทำการ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิที่สามารถทำได้ ดังนั้นหากเห็นว่าผิดคำสอนศาสนา ก็ไม่ต้องไปทำก็ได้

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ลุกขึ้นอภิปรายว่าเราพยายามเรียกร้องเรื่องความเท่าเทียมมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหลายฉบับ และค่อย ๆ พัฒนาขึ้น เพียงแต่ปัญหาเรื่องเพศไม่ค่อยยอมรับกันเท่าไหร่ในโลกความเป็นจริง แม้จะพบเจอกันคนใกล้ตัวที่เราได้พบเสมอมา สมัยมัธยม ตนเองก็มีเพื่อนมีรุ่นน้องที่แสดงออกไปในแนวทางคนละเพศกัน แรก ๆ อาจจะดูว่าแปลก แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมา ราจะเห็นได้ว่าสังคมได้ยอมรับมากขึ้นก็มีความชัดเจน

“ถึงเวลาที่เราต้องยอมรับความจริงในสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพียงแต่ว่าเราจะทำให้เขาอยู่อย่างไรในสังคมปัจจุบัน ผมยอมรับได้ว่ากฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมา มีภาคประชาชนเสนอกฎหมายเหล่านี้เข้ามา แสดงว่าประชาชนต้องการ เราคงจะไม่ตัดสินใจหรือพิจารณาตามกระแส แต่ต้องพิจารณาตามเหตุผล” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวต่อว่าหากกฎหมายบังคับใช้แล้ว เราต้องไปดูอีกด้านหนึ่งด้วย ให้เขาใช้ชีวิตด้วยกันได้ ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ เราให้โอกาสแต่งงานกัน จดทะเบียนกัน แต่อยู่ได้พักเดียวก็เลิกกัน ก็กลายเป็นปัญหาสังคม ดังนั้นเราต้องช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย เช่น ก่อนจะจดทะเบียนสมรสกัน ให้อยู่ด้วยกันก่อน 6 เดือนได้หรือไม่ เมื่อเข้าเงื่อนไข ก็มาจดทะเบียนกัน

ด้านตัวแทนภาคประชาชน ผู้เสนอกฎหมาย กล่าวว่าในฐานะเยาวชนที่เป็นกะเทย ขอบคุณ สว. ที่เห็นคุณค่า เห็นศักดิ์ศรี ความเป็นอยู่ของกลุ่ม LGBTQI+ นี่จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในการให้สิทธิความเป็นธรรมทางเพศ มีความสำคัญต่อลมหมายใจของ LGBTQI+ เชื่อว่ามวลมนุษยชาติจะเห็นว่า การให้สิทธิกับพวกเรานั้นเป็นการต่อลมหายใจของพวกเราจริง ๆ

โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเห็นชอบ 147 ไม่เห็นชอบ 4 คน งดออกเสียง 7 คน จากสมาชิก 158 คน พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาจำนวน 27 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน

Related Posts

Send this to a friend