‘ชลน่าน‘ เผย หากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด อาจกระทบหลายมิติ
‘ชลน่าน‘ เผย หากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด อาจกระทบหลายมิติ เตรียมออกกฎหมายควบคุมเพิ่มเติม เชื่อ หากผ่าน จะไม่มีการใช้ผิดประเภท
วันนี้ (2 เม.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติ ที่จะนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ว่า ประเด็นที่ให้สัมภาษณ์ อาจเป็นมุมมองของนายกฯ เพราะที่แถลงต่อสภา ก็พูดชัดเจนว่ากัญชาถ้าจะเอามาใช้ ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสุขภาพเท่านั้น หากจะพูดถึงในมิติเศรษฐกิจก็ต้องเป็นเรื่องสุขภาพ เป็นนโยบายหลักก็ต้องปฏิบัติตามนั้น แต่ขณะนี้กัญชาเป็นยาเสพติดที่ต้องมีสารสะกัด THC 0.2% ตามประกาศเดิมออกสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ถ้าจะปรับเปลี่ยนให้มาเป็นยาเสพติด ก็ต้องพิจารณาว่าจะกำหนดอย่างไร เพราะการจะดึงกลับมาเป็นยาเสพติด ต้องยกเลิกประกาศฉบับนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของนายกรัฐมนตรีว่าจะเอาอย่างไร
ส่วนตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการออกกฎหมายเพื่อเสนอเข้า ครม.แล้วเพื่อมาควบคุมเรื่องกัญชาเป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าหากประเทศไหนที่ไม่ระบุให้กัญชาเป็นสารเสพติด ก็ต้องมีกฎหมายควบคุม ยืนยันว่า เรากำลังดำเนินการอยู่ ดังนั้น กฎหมายฉบับดังกล่าวที่กำลังจะออกมา ใครก็ตามที่ใช้กัญชาโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องการแพทย์ หรือสุขภาพ ถือว่าเป็นการใช้ที่ผิดประเภท พร้อมย้ำว่า ตอนนี้เหลือเพียง ฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ ครม. มีมติเห็นชอบ หากเห็นชอบก็จะสามารถเสนอเข้าสู่สภาได้เลย
ส่วนการจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดนั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า เรามองเรื่องผลกระทบ ถ้ามีกฎหมายควบคุม ข้อกังวลเรื่องมิติสุขภาพ หรือการใช้ผิดประเภทก็จะไม่มี แต่ถ้าเอากลับมาเป็นยาเสพติดจะเกิดผลกระทบเยอะมาก เช่น บางบ้านมีกัญชา 1 ต้น ก็ถูกจับเหมือนเดิม แต่กฎหมายใหม่ การปลูก ผลิต ต้องได้รับการอนุญาต แต่ถ้ามีแล้วนำไปเป็นยาเสพติดก็ผิดทันที ซึ่งเราเป็นห่วงผลกระทบในส่วนนี้ เพราะยังมีเรื่องของร้านค้าที่ขายกัญชา โดยได้รับการอนุญาตแล้ว หากนำกลับไปเป็นยาเสพติดก็จะมีความผิดตามกฎหมาย