POLITICS

‘อนุทิน’ เมิน ‘ชูวิทย์’ บุกป่วนเวทีปราศรัย ชี้ทุกอย่างเป็นละคร ยินดีมีคนมาโปรโมตให้ดังขึ้น

วันนี้ (2 พ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ บุกมาป่วนเวทีปราศรัย ที่เขตดินแดง ว่า ไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะเสียงของเวทีปราศรัยดังกว่า และประชาชนก็ต้องการฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ เราเป็นพรรคการเมือง เวลามาพูดก็พูดถึงประโยชน์ของประชาชน และไม่รู้สึกเสียสมาธิเพราะตนพูดนโยบายได้ครบทุกประเด็น แม้กระทั่งเรื่องกัญชา ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการต่อไป โดยเน้นใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพและเศรษฐกิจ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ออกมาพูดโจมตีก็มีอยู่กลุ่มเดียว คือกลุ่มที่เกรงว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีความนิยมมากจนพวกเขารับไม่ได้ แต่เราไม่สนใจเรื่องพวกนี้ และนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว เราปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด แล้วมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ มีกฎหมายควบคุม มีการควบคุมการใช้อย่างรัดกุม

ส่วนกรณี นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุพรรคเพื่อไทยไม่ได้ลงมติถอดกัญชาออกจากยาเสพติด แต่เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า “พูดแค่นี้ก็ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มแล้วพี่เสริฐ จริงๆ รักกันดีมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไม่มีอำนาจปลดกัญชา คนที่ปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน ชัดไหม รัฐมนตรีสาธารณสุขมีหน้าที่ลงนามตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ส.

เพราะฉะนั้น เป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่รัฐมนตรีสาธารณสุขปลดล็อคกัญชา แต่อาจจะเป็นคนที่นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์แล้วคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสมควรปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ตรงกับเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่ไม่มีคำว่ากัญชาอยู่ในกฎหมาย ไม่มีสิ่งใดที่ทำเลยขอบเขตกฎหมาย ดังนั้นสิ่งที่เลขาฯ พรรคเพื่อไทย พูดออกมา ซึ่งเป็นคนที่ถือว่าเป็นคีย์หลักของพรรคต้องศึกษาข้อมูล โลกเราทุกวันนี้พูดอะไรตามความเข้าใจตัวเองไม่ได้ ต้องไปค้นหาข้อมูลให้มันถูกต้องก่อน โดยเฉพาะข้อมูลที่จะเอามาโจมตีให้คนอื่นให้เสียเครดิต หรือเกิดความเสียหาย ต้องศึกษาอย่ามาพูดพล่อยๆ แบบนี้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดหรือไม่ว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงมาตีเรื่องกัญชาหนัก แม้กระทั่งนายเศรษฐาเองก็โพสต์ข้อความ ติดแฮกแท๊กไม่เอากัญชาเสรี นายอนุทินกล่าวว่า ภาคไหนที่ชื่นชมในนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์มากที่สุดในประเทศไทย ภาคอีสาน ภาคเหนือ แล้วพรรคไหนที่ต้องไปดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และเป็นพรรคที่เชื่อว่าจะทำให้ความหวังต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จ คำตอบก็เห็นอยู่ไม่ต้องไปถามหรอก ตนไม่อยากพูดอะไรที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เห็นไหมความขัดแย้งได้อะไรขึ้นมา ถ้าเมื่อกี้ใจร้อนไม่มีสติยกพวกตีกันเจ็บทั้งคู่ ทำอย่างนั้นไม่ได้นี่มันประเทศ เพราะฉะนั้นถ้าใครมีอะไรดีก็ทำในสิ่งที่ตัวเองเสนอให้ดีที่สุดให้กับประชาชน เหมือนพรรคภูมิใจไทยเรามีนโยบายดีๆ ก็เสนอให้ประชาชน ถ้าพรรคอื่นมีนโยบายอะไรดีๆ พรรคภูมิใจไทยก็ยินดีสนับสนุนให้นโยบายของเขาเกิดประโยชน์กับประชาชน ประเทศไทยจะได้ลดความขัดแย้ง มีความมั่นคง มีเสถียรภาพ

เมื่อถามต่อว่า ถ้ามีเวทีปราศรัยแบบนี้ แล้วเกิดเหตุการณ์ป่วนขึ้นอีกจะทำอย่างไร นายอนุทิน ตอบว่า ไม่เป็นไร ยินดี ตนยิ่งดังใหญ่มีคนมาโปรโมทให้ เอาไว้ละครปิดฉากทุกอย่างจบลง เดี๋ยวก็ได้คุยกันอีก ตนกับนายชูวิทย์ รู้จักกันเป็น 10 ปี ไม่ใช่รู้จักแค่เฉพาะพ่อ ลูกก็รู้จัก ลูกเขาก็มาอยู่บ้านตนที่ต่างประเทศก็รักเขาเหมือนลูก โดยเฉพาะลูกสาวเขาที่เป็นเพื่อนกับลูกสาวลูกชายตน นี่คือบทบาท เป็นละครที่นายชูวิทย์ต้องแสดงด้วยวัตถุประสงค์ใดเราก็ต้องเคารพ เพราะคนเราถ้าไม่มีวัตถุประสงค์คงไม่มาแสดงกิริยาแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรพื้นฐานจริงๆ เราก็รัก ถ้าเขาเป็นอะไรไปตนก็เสียใจ เรามีความผูกพัน ใครที่อยู่ข้างหลังเขา ก็คงไม่มีความปรารถนาดีต่อพรรคภูมิใจไทย ก็ปล่อยไป สิ่งที่จะพิสูจน์คือการเลือกตั้ง

ส่วนเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ได้ทักทายกันแล้ว ยกมือไหว้กันแล้ว เผชิญหน้าแบบนี้ไม่ได้หรอกต่อหน้ากล้องเยอะๆ เดี๋ยวก็แอคอาร์ตกันอีก นายอนุทินกล่าวอีกว่าถ้าวันไหนจะเอาแชทหวานๆ ที่เราทั้ง 2 คนคุย มาส่งให้ดู แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ก็ถือว่าไม่เอาเปรียบกัน เราเข้าใจบทบาทของเขา เพราะชีวิตของตนผ่านอะไรมามาก จึงชินกับเรื่องแบบนี้ วันนี้ทุกคนต้องแข่งขันเพื่อให้บรรลุความสำเร็จตามเป้าหมาย ถือเป็นเรื่องปกติ ตนเชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์ ก็เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่มีความรักความผูกพันกับตนเป็นอันมาก ไม่มีใครแยกตรงนี้ได้ แต่ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างคือละคร

ส่วนเรื่องนายเศรษฐา ทวีสิน ที่โพสต์ข้อความตอบโต้นั้น ถือว่าจบ ตอบโต้กันแล้วก็ต้องจบ ไม่งั้นก็ไปเรื่อย พิมพ์จนมือหงิกหมดแล้ว

Related Posts

Send this to a friend