หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 30 คนรวมทั้งนายปัณณพัทธ์ และนายเกียรติศักดิ์ ยังได้เข้าร่วมใช้กำลังกับตำรวจที่ทำการปฏิบัติหน้าที่ด้วยการขว้างปาขวดน้ำ กรวยยาง หิน ก้อนอิฐใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และยังใช้ท่อนเหล็กทุบตีแผงโล้ควบคุมฝูงชนจนได้รับความเสียหาย
นอกจากนั้นมีการใช้ท่อนเหล็ก ดิ้ว ตีและใช้แผงเหล็กทุ่มใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน การกระทำดังกล่าว เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บแก่กายจำนวน 14 คนจึงทำการจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 ถึง 3 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวาให้ดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนได้แยกดำเนิน นายวิชพรรษ ศรีกสิพันธ์ุ ไปที่ศาลแขวง ฯ
โดยกล่าวหาว่า “ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมืองโดยผู้กระทำผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ,ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 (2)
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หากมีการยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาพนักงานสอบสวนขอค้านการประกันเนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งหากให้ประกันตัวเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี
ศาลได้พิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ เบื้องต้นยังไม่ปรากฎว่ามีญาติหรือทนายของผู้ต้องหามายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว.