‘เศรษฐา’ มอบ ‘หมอมิ้ง’ ถกเรื่องลดราคาพลังงาน

ระบุนโยบายใกล้ถึงฝั่งฝัน เร่ง เรื่องพักหนี้เกษตรกร- ฟรีวีซ่า ให้เสร็จภายในตุลานี้ เตรียมจี้กองทุนพัฒนากีฬา จ่ายเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาก่อนเอเชียนเกมส์

วันนี้ (1 ก.ย. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยเปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องการลดราคาพลังงานว่า เมื่อวานนี้ได้มีการโทรหาว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแล้วโดยเข้าใจว่า และวันนี้จะมีการหารือกันอีกทีเวลา 10.30 น. โดยมอบหมาย นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย เป็นคนรับผิดชอบ

ส่วนกรณีที่ประธานสภาอุตสาหกรรมแสดงความกังวลต่อการลดค่าไฟ ค่าพลังงาน นายเศรษฐา ย้ำว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญสูงสุดอยู่แล้ว ส่วนความคืบหน้านโยบายที่เตรียมจะแถลงต่อรัฐสภา ขณะนี้เหลืออีกไม่มาก โดยวันนี้จะมีการหารือกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ด้วยดีและไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

นายเศรษฐา ยังระบุถึงความคืบหน้าเรื่องนโยบายการพักหนี้เกษตรกรว่า ได้หารือกับประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อวานนี้โดยถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของทางพรรคเพื่อไทยซึ่งที่ได้มีการหาเสียงเรื่องของการพักหนี้ ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดว่าพักเท่าไหร่ อย่างไรพัก นานเท่าไหร่

“หลักการคืออยากให้เกษตรกรมีเวลาไปฟื้นฟูทำงาน ทำมาหากิน ไม่ใช่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลังเกี่ยวกับหนี้สิน มีกำลังใจในการไปหารายได้ โดยการพักหนี้น่าจะทำได้ในเดือน ต.ค. ตอนนี้ให้ ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ธ.ก.ส.) ดูเรื่องขั้นตอนการขออนุมัติ และประสานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง”

อีกทั้งเมื่อวานนี้ ได้พูดคุยกับสถาบันจัดอันดับหนี้ ซึ่งดูแลหนี้สินทั้งหมดของประชาชน เพราะรัฐบาลไม่ได้ดูแลหนี้สินของเกษตรกรอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงหนี้สินของครู ตำรวจ และผู้ที่ประสบภัยพิบัติจากช่วงโควิด-19 ที่จะมีการดูแลเป็นพิเศษ พรรคเพื่อไทยจะดูแลทุกภาคส่วนเพื่อให้คนไทยที่ประสบปัญหาได้มีขวัญและกำลังใจในการกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง

“การลดหนี้ชั่วคราว เป็นการแค่บรรเทาความทุกข์ เป็นการฟื้นฟูจิตใจให้มีขวัญและกำลังใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการเพิ่มรายได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะเพิ่มรายได้ของเกษตรกร ตรงนี้ต้องเร่งทำ” นายเศรษฐา ระบุ

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังได้กล่าวถึงกรณีที่สมาคมด้านธุรกิจท่องเที่ยวตั้งคำถามต่อนโยบายฟรีวีซ่า ว่าเป็นการลดค่าธรรมเนียมหรือเป็นวีซ่าฟรี เนื่องจากฝ่ายความมั่นคงเป็นห่วงว่า หากมีการฟรีวีซ่าจริง จะป้องกันผู้ที่ไม่พึงประสงค์ในการเดินทางเข้ามาในประเทศไม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า ต้องขออภัยด้วยตนพูดไม่ชัดเจน ไม่ใช่การฟรีวีซ่า ฟรีวีซ่าคือไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ที่หมายถึงคือ วีซ่าฟรี คือไม่ต้องขอวีซ่า เพราะฉะนั้นหากไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า โดนจะเป็นยกเว้นการขอวีซ่าเป็นการชั่วคราวก่อนในช่วง High Season เท่านั้น ซึ่งต้องมีหน่วยงานหลายหน่วยงานในการดูแลเรื่องนี้ทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงต่างประเทศ รวมถึงทางตำรวจและท่าอากาศยาน โดยมีการพูดคุยกันถึงรายละเอียดในหลายๆ เรื่อง และได้มีการเห็นชอบในหลักการแล้ว ทั้งเรื่องการเข้ามาในประเทศ การขนสัมภาระเข้ามาในสนามบิน ตลอดจนเรื่องรถโดยสารสาธารณะที่จะเข้ามาในสนามบินด้วย

นายกรัฐมนตรียังได้เปิดเผยต่ออีกว่า ได้พูดคุยกับว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทางว่าที่รัฐมนตรีก็เห็นด้วยและพร้อมที่จะผลักดันนโยบายนี้ ซึ่งช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วงพีคซีซั่น พอดี จึงหวังว่าจะเริ่มต้นได้ภายใน 1 ต.ค. นี้

ส่วนเรื่องของการพัฒนาการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีระบุว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ก็เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาหลายคนพบปะพูดคุยกัน ซึ่งหัวข้อกองทุนพัฒนากีฬาด้วย เนื่องจากจะมีการจัดการแข่งขันเอเชียนเกม์ในเร็วๆนี้

“เข้าใจว่าอีกไม่ถึงเดือน ก็จะมีการจัดเอเชียนเกมส์แล้ว หลายๆ สมาคมยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนเลย ค้างกันมาเป็นหลายล้าน จึงฝากผู้อำนวยการที่ดูแลทางด้านฝ่ายกองทุนพัฒนากีฬาด้วยว่า ถ้าจ่ายเงินออกมาได้ ก็จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยที่จะเข้าไปช่วงชิงเหรียญทอง มาเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศชาติ ถ้าติดขัดตรงไหนก็พยายามเร่งผลักเงินออกมา หลายสมาคมเดือดร้อน อย่างเช่นสมาคมเทควันโดที่มีการติดค้างอยู่เป็น 10 ล้านบาท ตรงนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง” นายเศรษฐาระบุ

ส่วนการถูกตัดงบประมาณกว่า 150 ล้านของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะกระทบกับการจัดงาน โมโตจีพี ไทยแลนด์ 2023 ที่ จ.บุรีรัมย์ หรือไม่ ซึ่งคาดว่าเป็นงานที่จะที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวนายเศรษฐา ยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง และต้องดูว่างบประมาณ 150 ล้านบาทนี้ ตัดไปทำอะไร หรือมีทางใดที่จะคงไว้ซึ่งกิจกรรมต่างๆ หรือไม่ โดยที่ลดจำนวนเงินลงไป