มท.ยันแอป ThaiD สามาถเชื่อมโยงฐานข้อมูล Digital Wallet แต่รอ สพร. เชื่อมโยงระบบ
มหาดไทย แจง ปมไม่สามารถใช้ฐานข้อมูลจาก ThaiD ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ทางรัฐได้ เผย อยู่ระหว่างรอ สพร. เชื่อมโยงระบบ ย้ำ ThaiD มีฐานข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตน
วันนี้ (1 ส.ค. 67) เวลา 09.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยรับแจ้งจากประชาชนผู้ประสงค์ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ตของรัฐบาลว่า ไม่สามารถใช้ฐานข้อมูลจากแอปพลิเคชัน ThaiD ยืนยันตัวตนเพื่อใช้บริการ ดิจิทัล วอลเล็ต ร่วมกับแอปพลิเคชันทางรัฐได้
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ตรวจสอบข้อมูลประชาชนที่ใช้บริการ ThaiD พบว่าปัจจุบันมีจำนวน 17.701 ล้านคน โดย ThaiD เป็นแอปพลิเคชันในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (DOPA-Digital ID) ที่พร้อมจะยืนยันตัวตนเข้าใช้บริการร่วมกับแอปพลิเคชันทางรัฐ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ดำเนินการพิสูจน์และยืนยันตัวตน โดยใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (DOPA-Digital ID) หรือ ThaiD เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการให้บริการประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบระบบการลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต แอปพลิเคชันทางรัฐ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันนี้ พบว่ายังไม่มีการเชื่อมโยงการพิสูจน์และยืนยันตัวตน โดยใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (DOPA-Digital ID) หรือ ThaiD ดังนั้น สพร. จะต้องดำเนินการเชื่อมโยงและติดตั้งการเชื่อมโยงระบบในแอปพลิเคชันทางรัฐให้สามารถใช้การพิสูจน์ยืนยันตัวทางดิจิทัลในระบบ ThaID เพื่อลงทะเบียนได้
กระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า ThaiD มีฐานข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่สามารถเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันทางรัฐเพื่อลงทะเบียนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ได้ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ สพร. เชื่อมโยงระบบ ซี่งหาก สพร. ทำการเชื่อมโยงระบบแล้วเสร็จ จะเกิดประโยชน์ และเป็นการอำนวยความสะดวกของการบริการภาครัฐให้กับประชาชน
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนแอปพลิเคชัน ThaiD ได้ดาวน์โหลดและยืนยันตัวตน เพื่อใช้งานบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ คัดสำเนาทะเบียนบ้าน คัดสำเนาสูติบัตร ตลอดจนรายการทางทะเบียนราษฎร และที่สำคัญสามารถใช้ในการยืนยันตัวตนกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่ให้บริการทางระบบออนไลน์ ซึ่งถือเป็นบริการด้านการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ” นายสุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย












