‘จุลพันธ์‘ เผย คนลงทะเบียน ดิจิทัล วอลเล็ตแล้ว 2.3 ล้านคน คาด ตัวเลขมากกว่าเป้า
วันนี้ (1 ส.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวภายหลังจากเปิดให้กดขอรับสิทธิ์ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต วันนี้เป็นวันแรก ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 8:00 น. ได้เปิดเริ่มลงทะเบียน กดขอรับสิทธิ์ของโครงการ โดยข้อมูลเมื่อเวลา 9:00 น. มีประชาชนขอรับสิทธิ และผ่านกระบวนการขั้นตอนขอรับสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว 2.3 ล้านคน ค่อนข้างรวดเร็ว มีคนเข้าสู่ระบบเยอะ เป็นเรื่องปกติที่ ในช่วงต้นที่อาจมีอะไรขลุกขลักบ้าง เหมือนไฟฟ้าที่ดีด เพราะคนเข้าสู่ระบบค่อนข้างมาก ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างคลี่คลาย ก็แก้ไขไปตามจุด สำหรับประชาชนที่ประสบปัญหาเรื่องค้าง หรือช้า เกิดจาก 2 กรณี คือเมื่อคนเข้ามาเยอะ ๆ ระบบการรอคิวจะทำงาน อาจจะต้องรอเป็นวินาที หรือนาที หากค้างเยอะเกินไป ทีมเทคนิคแนะนำว่าให้ลองลบแอปพลิเคชั่น แล้วโหลดใหม่ เพราะมีบางกรณีที่มีการอัพเดทแอปฯ และยังลบข้อมูลไม่ครบถ้วน ยังมีข้อมูลค้างอยู่
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้คนยังเข้ามาเรื่อย ๆ และคาดว่าคนน่าจะเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนในวันแรก ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และเราเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 กันยายน ก็ยังเหลือเวลาให้ลงทะเบียนได้ หลังจากนี้จะเป็นการกระจายตัวการลงทะเบียน เพราะฉะนั้น แอปพลิเคชั่นก็จะดีขึ้น และน่าจะรองรับได้ตามจำนวนที่เราต้องการตามเป้าหมาย
นายจุลพันธ์ ระบุว่า ในกรณีที่ประสบปัญหาใด ๆ เรามีศูนย์บริการศูนย์ไอทีของชุมชนของทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั่วประเทศ เบอร์โทรศัพท์ 111 สายด่วน สำหรับ สอบถามข้อมูล และคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะแก้ไข และในวันนี้หลายกระทรวงก็มีการตั้งวอล์รูมเพื่อมอนิเตอร์ตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ปกติ
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประชาชนที่เริ่มลงทะเบียนได้ตกลงกันว่าจะนำเงินไปแลกเป็นเงินสดนั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดเร็วอย่างนี้ เพราะเงินยังไม่ถึง แลกไม่ได้ ซึ่งเราติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่ามูลค่าเงิน 10,000 บาทในดิจิทัล วอลเล็ต เท่ากับเงิน 10,000 บาทในธนาคาร เพราะฉะนั้น การไปแลกลด ถือว่าขาดทุน ไม่ควรทำอยู่แล้ว ไม่ฉลาด โดยกลไกในการตรวจสอบของเราจะสามารถตรวจสอบได้ เพราะมีการบันทึกข้อมูลไว้ ซึ่งจะต้องดำเนินคดีเป็นคดีอาญา ก็ขอเตือนด้วยความหวังดี แต่คิดว่าไม่มีคนทำมากเท่าไหร่
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงข้อห่วงใยของฝ่ายค้านในการอภิปรายเมื่อวานนี้ ว่า ตนเองได้ชี้แจงไปหมดแล้ว เพราะผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน มีการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฏหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทุกข้อห่วงใยมีได้ในเรื่องต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดูแลอย่างรอบคอบ และจะไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น มิติที่มองคือเราใช้นโยบายทางการคลัง มากระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นห่วงกรอบความยืดหยุ่นของกรอบนโยบายทางการคลัง ซึ่งในข้อเท็จจริงคือนโยบายทางการคลัง มีความยืดหยุ่นกว่าที่ท่านคิด สามารถดำเนินการรองรับกรณีใด ๆ ในการบริหารจัดการราชการแผ่นดินได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา ไม่มีความเสี่ยง ไม่อยู่ในจุดที่น่าห่วง และเราเลือกใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ หรือจะรอให้เกิดวิกฤติ แล้วจะใช้ความยืดหยุ่นตรงนี้มาแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยรัฐบาลเลือกที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า ถือเป็นมุมมองที่แตกต่างกัน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กลไกการย้ายทะเบียนบ้าน เป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้โดยประชาชนอยู่แล้ว กรมการปกครองสามารถรองรับได้ตามปกติ หากต้องการมาใช้ที่อยู่อาศัย ไม่ใช่บ้านเกิด และหากคิดว่าในช่วงเวลา 6 เดือนของโครงการ ที่อยู่ในระหว่างเทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ แล้วจะไม่กลับบ้านเลย ถ้าจะย้ายทะเบียนบ้าน ก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน ซึ่งโครงการนี้จะล็อคทะเบียนบ้านในวันที่ท่านกดลงทะเบียน ไม่มีการพิจารณายืดหยุ่นใด ๆ เพราะเราต้องกระจายเงินมากขึ้น และจะไม่กระทบกับจุดประสงค์ของโครงการ หากตัดสินใจแบบนั้น ก็เป็นประชากรแฝงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และตนเองไม่คิดว่าทุกคนจะย้ายมาที่กรุงเทพมหานครหมด