‘องอาจ’ เสนอ 4 มาตรการสำคัญที่ต้องเร่งทำ หากมีการล็อกดาวน์รอบใหม่
วันนี้ (1 ส.ค. 64) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิดกับมาตรการล็อกดาวน์ว่า วันที่ 2 ส.ค. นี้จะครบกำหนดล็อกดาวน์รอบแรกตามที่ ศบค. เคยประกาศไว้และขณะนี้มีแนวโน้มที่ ศบค. จะประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ยาวออกไปรอบใหม่ จนกว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะคลี่คลาย
สังเกตได้จากการให้ความเห็นของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขเป็นไปในทิศทางที่อยากเห็นล็อกดาวน์ยาวออกไป เช่นบอกว่ามาตรการล็อกดาวน์สำคัญในการลดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ถ้าไม่ล็อกดาวน์ผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันจะสูงเกิน 4 หมื่นและจะมีผู้เสียชีวิตเกินกว่า 500 คนต่อวัน
เมื่อทิศทางของ ศบค. จะกำหนดให้มีล็อกดาวน์รอบใหม่ต่อเนื่อง จึงขอเสนอให้ ศบค. ดำเนินการ 4 มาตรการสำคัญดังนี้
1. ไม่ควรล็อกดาวน์ยาวแบบไม่มีกำหนดระยะเวลา ควรกำหนดระยะเวลา ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นค่อยขยายเวลาออกไป
2. เมื่อ ศบค.เลือกล็อกดาวน์รอบใหม่ ควรลดมาตรการควบคุมที่ไม่เกิดผลมากนักและไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีการแพร่ระบาดมากขึ้น เพราะถ้ายังมีมาตรการควบคุมที่ไม่ได้ช่วยควบคุมการแพร่ระบาดมากนัก จะทำให้เศรษฐกิจและธุรกิจมีปัญหามากขึ้น
3. ควรใช้มาตรการเชิงรุกที่จริงจังมากขึ้น เข้าชุมชนแออัดให้ทั่วถึงเพื่อตรวจหาเชื้อ ฉีดวัคซีน และวางแนวทางป้องกันผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังไม่ให้ติดเชื้อ เพราะถ้าคนกลุ่มนี้ติดเชื้อมักจะมีอาการหนักอยู่ในกลุ่มสีเหลืองหรือสีแดง จะหาเตียงรักษาลำบาก
4. ระดมทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อที่ดูแลตนเองอยู่ที่บ้านและไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวและตัวเองได้
หวังว่าข้อเสนอนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ ศบค. เพราะเป็นข้อเสนอที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติในพื้นที่จริงของส.ส. อดีต ส.ส. ส.ก. ส.ข. ตัวแทนพรรค สาขาพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำงานช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องจนสามารถสรุปเป็นข้อเสนอให้ ศบค. กำหนดมาตรการในการบูรณาการการทำงานให้ได้ผลเพื่อทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายไปในที่สุด