‘ทักษิณ’ เดินทางกลับ หลังสืบพยานโจทก์นัดแรก คดี ม.112 ‘วิญญัติ‘ ย้ำ ไม่หนักใจคดีนี้
‘ทักษิณ’ เดินทางกลับ หลังสืบพยานโจทก์นัดแรก คดี ม.112 ยังเลี่ยงเจอสื่อ ด้าน ‘วิญญัติ‘ เผย เจ้าตัวขอถามความโจทก์ด้วยตัวเอง ย้ำ ไม่หนักใจคดีนี้ตั้งแต่แรก เพราะตกเป็นเหยื่อ เชื่อ ’ทักษิณ‘ ไม่ตกใจ หลังทราบคำสั่งศาล รธน. ให้ ‘แพทองธาร‘ หยุดปฏิบัติหน้าที่ “ยังดูสบายๆ เหมือนตอนเช้า”
วันนี้ (1 ก.ค. 68) เวลา 16:08 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับ ภายหลัง มาตามนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยนายทักษิณ ได้ขึ้นรถกลับบริเวณประตูด้านข้างของศาลอีกครั้ง ก่อนออกประตูของศาลแพ่งไปทันที
ต่อมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ เปิดเผยถึงภาพรวมหลังการสืบพยานนัดแรกว่า เป็นไปอย่างราบรื่น เป็นไปด้วยดี ศาลออกข้อกำหนดให้พิจารณาเป็นการลับ ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดถึงกระบวนการพิจารณาได้ ว่าสืบพยานเป็นอย่างไร หรือสืบใครไปแล้วบ้าง แต่วันนี้มีการสืบพยานไปแล้ว3ปาก และในวันพรุ่งนี้ก็จะสืบพยานโจกท์อีก4ปาก ทั้งเช้าและบ่าย และวันที่ 3 ก.ค.อีก 3ปาก พร้อมย้ำว่า นายทักษิณ จะเดินทางมาสืบพยานโจทก์ด้วยตนเองทั้ง3วัน และสืบพยานจำเลยอย่างน้อย2วันจนจบกระบวนการพิจารณา
เมื่อถามว่ามีท่าทีที่นายทักษิณ จะออกมาพูดคุยกับสื่อบ้างหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ แต่ส่วนที่ท่านมาศาลก็อยากมาทำหน้าที่ตามกระบวนการ ส่วนกับสื่อไม่ทราบว่าท่านอยากคุยหรือไม่อยากคุยเพราะตอนนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณา และตอบไม่ได้ว่าท่านจะให้สัมภาษณ์สื่อหรือไม่ แต่ท่านยืนยันว่าจะมาทุกนัด
ทั้วนี้หลังสืบพยานนัดแรกเชื่อว่าจะชนะคดีได้หรือไม่นั้น นายวิญญัติ ระบุว่า ตนยังไม่กล้าบอกแบบนั้นขอให้สืบพยานโจกท์เสร็จก่อนและเมื่อสืบพยานโจกท์เสร็จก็ยังไม่กล้าบอกว่าจะชนะคดี เพราะเรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน และดูว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำมาฟ้องเพียงพอให้เชื่อได้หรือไม่ว่าจำเลยกระทำความผิด และนายทักษิณก็ไม่ได้หนักในในคดีนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าท่านถูกกระทำและตกเป็นเหยื่อ และเรื่องนี้ไม่สมควรจะถูกฟ้องตั้งแค่แรก
และการสืบพยานในวันนี้ตนเองก็ไม่ได้รู้สึกว่านายทักษิณมีอาการเหนื่อยล้า เพราะเป็นปกติของคนที่อยู่ในห้องพิจารณาทั้งวัน ไม่มีใครสุขสบาย ท่านอาจจะเหนื่อยล้าหรือง่วงนอนก็ได้ แค่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น โดยตลอดในห้องพิจารณาคดี นายทักษิณ เป็นผู้ถามความด้วยตัวเอง เพราะหลังจากที่ทนายได้ทำหน้าที่แล้ว ท่านก็มีคำถามที่ขอถามเอง
ส่วนเหตุผลทำไมศาลถึงต้องมีการพิจารณาคดีลับนั้น ตนก็ไม่สามารถบอกได้เพราะเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาที่มีเหตุผลอยู่แล้ว และเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับการตั้งข้อกล่าวหา
เมื่อถามว่านายทักษิณ มีอาการตกใจหรือไม่หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ36สว.ถอดถอนนายกรัฐมนตรี และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ปมคลิปเสียง นายวิ
ญญัติ บอกว่า ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้ถามนายทักษิณ แต่เชื่อว่านายทักษิณน่าจะทราบเรื่องแล้ว แต่คนไม่ได้คุยว่าท่านรู้ยังไง
ส่วนนายทักษิณ มีอาการเครียดหรือไม่นั้น นายวิญญัติ บอกว่า ก็สบายๆเหมือนช่วงเช้า
โดยในวันพรุ่งนี้ 2 ก.ค.นายทักษิณจะเดินทางมาสืบพยานฝ่ายโจทก์นัด2 ในเวลา 09.00น
ในฐานะทนายควรรู้สึกกังวลหรือไม่ที่อาจมีเกมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีของนายทักษิณ และลูกสาว นายวิญญัติ ระบุว่า ไม่กังวล เพราะทนายก็ทำหน้าที่ของทนาย เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง ส่วนเรื่องที่ไท่ได้เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของตนก็ต้องแยกแยะ ซึ่งคดีที่ตนรับผิดชอบอยู่ในขณะนี้ไม่ได้รู้สึกกังวล ตั้งแต่รับทำคดีแล้ว และการทำหน้าที่ก็รู้สึกมีโอกาสที่จะต่อสู้ได้ดีขึ้น เนื่องจากได้เห็นพยานหลักฐานต่างๆในสำนวน หลังมีการตรวจพยานเอกสาร วันนี้ได้เห็นเอกสารที่โจทก์ส่งมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ได้เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง จึงไม่ได้หนักใจอะไร












