POLITICS

เครือข่ายองค์กรเยาวชน ห่วงเด็กใช้กัญชา ร้อง กมธ. ห้ามเปิดนันทนาการ

เครือข่ายองค์กรเยาวชน ห่วงเด็กใช้กัญชา ร้อง กมธ. ห้ามเปิดนันทนาการ-คุมเข้าถึงเด็กต่ำกว่า 20 ปี หวังขยายเวลาศึกษาลดผลกระทบ-ฟังความเห็นรอบด้าน

วันนี้ (1 ก.ค. 65) ที่อาคารรัฐสภา องค์กรด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว กว่า 20 องค์กร นำโดยนางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเต็ก มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายบางกอกดีจัง ฯลฯ ยื่นหนังสือต่อ นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … เพื่อยื่นข้อเสนอต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว

นางทิชา กล่าวว่า จากความพยายามของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผลักดันเพื่อปลดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ โดยประกาศ สธ. มีผลเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปลดล็อคให้ทุกส่วนของกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดอีกต่อไป เพียงวันแรกของการปลดล็อค พบสินค้าหลายชนิดที่มีส่วนผสมจากัญชาวางจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างเปิดเผยและเสรี ทั้งเครื่องดื่ม ขนม รวมถึงต้นกัญชา เป็นต้น จนมีความห่วงใยจากหลากหลายกลุ่ม อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ สถาบันทางการแพทย์ นักวิชาการ ตัวแทนภาคประชาสังคม รวมถึงศิลปินดารา นักร้อง ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน สังคม โดยเฉพาะการปกป้องเด็ก เยาวชน และกลุ่มเปราะบาง

ทั้งนี้ แม้สภาผู้แทนราษฎรจะมีมติรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ. … เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 แต่ยังต้องใช้เวลานานกว่าที่จะพิจารณาออกกฎหมายและมีผลบังคับใช้ ทำให้ขณะนี้ ไม่มีมาตรการควบคุมการใช้กัญชา กัญชง

“ไม่ทราบว่ารัฐสภาเคยปล่อยให้มีสุญญากาศทางกฎหมายเช่นนี้หรือไม่ เพราะสุญญากาศเรื่องกัญชาปัจจุบันถือเป็นความอัปยศของสภาฯ ไทย” นางทิชา กล่าว

นางทิชา กล่าวต่อไปว่า หากพิจารณาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ จะพบว่ามีการให้สิทธิประชาชนสามารถปลูกกัญชา กัญชงเพื่อใช้ในครัวเรือนได้ เท่ากับเป็นการเปิดประตูให้สามารถใช้ในทางนันทนาการได้ ในขณะที่ยังไม่มีมาตรการที่ดีพอเพื่อควบคุมไม่ให้ใช้กัญชา กัญชงในทางที่ผิด ไม่สามารถควบคุมปัญหาจากการเมากัญชาได้ เช่น เมากัญชาขับรถ การเสพหรือบริโภคเกินขนาด การคิดค้นสูตรผสมต่างๆ ที่อันตราย การกำหนดปริมาณกัญชาในส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

“ขอเรียกร้องให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชาฯ ต้องมีมาตรการที่รัดกุม คลอบคลุมทุกมิติของปัญหาและผลกระทบที่จะตามมาจากการอนุญาตให้มีการใช้กัญชา กัญชง เช่น ต้องควบคุมการปลูก การนำไปใช้หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ การจำหน่าย จำกัดการเข้าถึง ควบคุมอายุ ห้ามโฆษณา บทลงโทษ มาตรการกำหนดไม่ให้เสพกัญชาแล้วขับขี่ยานพาหนะ และมาตรการต่าง ๆ ในการให้ความรู้แก่ประชาชน” นางทิชา กล่าว

ด้านนายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า เครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอต่อคณะกรรมาธิการฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ดังนี้

  1. เครือข่ายไม่คัดค้านการใช้กัญชา กัญชง
    เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์หรือเศรษฐกิจ แต่เครือข่ายไม่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ เพราะแม้กัญชาจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติด แต่ฤทธิ์ของกัญชา กัญชง ยังส่งผลต่อระบบประสาททำให้มีอาการมีนเมา ประสาทหลอน และเสพติดได้ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระบบพัฒนาการของสมอง ทำให้โครงสร้างสมองผิดปกติ ความสามารถในการตัดสินใจ คิด วิเคราะห์ลดลง มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรควิตกกังวล ซึมเศร้า หรือฆ่าตัวตายได้
  2. ควรกำหนดให้สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานที่ราชการ เป็นสถานที่ห้ามเสพ ท้ามขายกัญชา และห้ามจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ทุกชนิด และให้หมายความรวมถึงกิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ที่หน่วยงานดังกล่าวอนุญาตให้จัด เช่น กิจกรรมรับน้อง กิจกรรมค่าย กิจกรรมทัศนศึกษา ศึกษาดูงาน กิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ การประชุมสัมมนา เป็นต้น
  3. การห้ามขายกัญชาให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องพิจารณาเพิ่มบทลงโทษให้สูงกว่าข้อเสนอเดิมสองเท่า และควรพิจารณามาตรการคุ้มครองเด็กที่เป็นผู้กระทำความผิด เช่น กรณีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติเป็นเด็กหรือผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ควรต้องรับโทษทางอาญา โดยเชื่อมโยงให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เป็นต้น
  4. ห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติโดยเด็ดขาด เพื่อจำกัดการเข้าถึงและควบคุมอายุของผู้ซื้อ และต้องควบคุมปริมาณความเข้มข้นของกัญชาที่ผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาต้องระบุปริมาณส่วนผสมของกัญชาให้ชัดเจน นอกจากนี้ต้องมีการระบุข้อความคำเตือนเกี่ยวกับการใช้กัญชา
  5. ควรห้ามการโฆษณากัญชา กัญชง และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีสวนผสมของกัญชา กัญชง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีรูปแบบ วิธีการและเนื้อหาที่มุ่งเป้าเชิญชวนเด็กและเยาวขนทั้งทางตรงและทางอ้อม
  6. ขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการฯ ขยายเวลาพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ และเปิดรับฟังความคิดเห็น ประชาชนในวงกว้างอย่างจริง ทั่วถึง ไม่เร่งรีบ
  7. ควรกำหนดให้คณะกรรมการควบคุมกัญชา กัญชง ต้องมีหน้าที่ในการควบคุม กำกับดูแล และลดผลกระทบจากกัญชา กัญชง มิใช่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเพียงอย่างเดียว

ด้าน นายศุภชัย ในฐานะประธาน กมธ. กล่าวตอบรับว่า ผมพูดอยู่หลายครั้งว่ากฎหมายฉบับนี้จะต้องออกมาแล้วทำให้กัญชาสามารถเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดต่อประเทศและคนไทย กฎหมายฉบับนี้จะต้องสร้างความมั่นใจจากทุกภาคส่วนที่ห่วงกัญชาว่าจะสร้างความปลอดภัยต่อการใช้กัญชาในสังคมไทย และกัญชาเป็นนโยบายนายกรัฐมนตรีที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา พรรคภูมิใจไทยเราเห็นว่าการจะปล่อยให้หลุดลอยไปอย่างนั้นก็ไม่ทำให้สังคมเกิดความสบายใจ และควรมีกฎหมายสักฉบับต้องปกป้องเด็กและเยาวชนด้วย

“ตั้งแต่วันแรกที่เรายื่นพระราชบัญญัติ เราเขียนปกป้องเยาวชนทุกคน ว่าการจำหน่ายต่อเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี มีความผิดและโทษทางอาญา” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวถึงสภาวะสุญญากาศทางกฎหมายว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขหลายฉบับได้ประกาศคุ้มครองเด็กและเยาวชนแล้ว ดังนั้น สภาฯ จีงไม่ถึงกับอัปยศ เพราะประเทศนี้ตั้งมาด้วยกฎหมายตามหลักนิติรัฐ คุ้มครองท่านให้ปลอดภัยอยู่แล้ว

ทั้งนี้ การยื่นหนังสือยังปรากฏการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทั้งการให้เยาวชนแต่งกายด้วยชุดนักเรียนคลุมด้วยผ้าใบสกรีนใบกัญชา และป้ายข้อความที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับภัยอันตรายที่อาจเกิดจากการบังคับใช้นโยบายกัญชาเสรีในประเทศไทย

Related Posts

Send this to a friend