‘ไทยไม่ทน’ บุกสภาเผาดอกไม้จันทน์ ‘จตุพร’ เผยนายกฯ มีแต่สร้างความกลัวให้ประชาชน
วันนี้ (1 ก.ค. 64) ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และคณะ เดินทางมาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการนำหีบศพจำลองมาวางไว้บริเวณประตูทางเข้าจุดแถลงข่าว โดยมีภาพถ่ายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วางอยู่ข้างหีบศพ และหลังจากสิ้นสุดการแถลงข่าวทางกลุ่มได้ทำการเผาดอกไม้จันทน์ ก่อนจะทำการเก็บกวาดสถานที่ ซึ่งวัตถุประสงค์ของกลุ่มในวันนี้คือการเดินทางมาประณามวิกฤตรัฐสภา กรณีสภาล่ม เพื่อเรียกร้องให้รัฐสภาหาทางออกจากวิกฤตของบ้านเมือง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาก่อน ซึ่งตนเองศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวประชาชน และเคยลาเพื่อไปต่อสู้ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยหลายครั้งจนกลายเป็นประเด็น แต่สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ กรณีที่สภาล่มเมื่อวาน (30 มิ.ย.) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเอง แต่หากเกิดวิกฤติศรัทธาแล้วสภาถูกล่มโดยผู้อื่น สภาก็จะเหลือเพียงตัวอาคารที่ไร้คุณค่า เพราะในขณะนี้วุฒิสภาก็ไม่ได้เป็นความหวังของประชาชน และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย เป็นที่น่าเสียดายที่นักการเมืองผู้มาจากการเลือกตั้ง ในเวลาที่ประชาชนต้องการที่พึ่งมากที่สุด แต่กลับทำตัวขี้ขลาดตาขาว และควรไปดูประเทศที่เขาประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่ง นายจตุพร ได้ระบุด้วยว่า “นายกฯ “นะจ๊ะ” มีแต่ความกลัวให้ประชาชน และประชาชนไม่มีทางออก”
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึงการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันที่ 2 ก.ค. ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการขับไล่พลเอกประยุทธ์ ซึ่งทุกคนที่ขับไล่พลเอกประยุทธ์ถือเป็นเพื่อนพี่น้องกันทั้งนั้น โดยการเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มถือเป็นอิสระต่อกัน แต่มีหัวข้อในการขับไล่พลเอกประยุทธ์เหมือนกัน ซึ่งในวันเสาร์นี้จะมีการทำกิจกรรมของกลุ่มประชาชนคนไทย ที่นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ , กลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ทำกิจกรรมบีบแตรไล่พลเอกประยุทธ์ ส่วนกลุ่มของตนเองจะทำกิจกรรมดังเดิม ส่วนแนวคิดที่ทุกกลุ่มจะจับมือทำกิจกรรมร่วมกันหรือไม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มเป็นลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย แม้เป็นคนละกลุ่มแต่เป็นความงดงาม ซึ่งเป็นความหลากหลายตามประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายหลักคือการขับไล่พลเอกประยุทธ์เหมือนกัน
