‘อนุทิน’ บอก เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ยังรวมกันได้ แม้แต่ก่อน ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ
แจง ตั้งปลัดเหลืออายุงาน 6 ปี ดีกว่าเหลือ 1 ปี แล้วอยากเกษียณแบบสบาย ไม่กังวลปมที่ดินเขาใหญ่ ยัน ไม่ใช่ภูมิใจขวาง ลงนามส่งร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ คืน ครม. แล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการสร้างผู้นำว่า ผู้บริหารไม่ได้ดูเรื่องอาวุโสเพียงอย่างเดียว เคยเจอข้าราชการที่เหลืออายุราชการอีก 1 ปี แล้วอยากเกษียณแบบสบาย ถ้าเลือกอย่างนั้นก็พัฒนาประเทศไม่ได้ ต้องถอยไปเป็นหน่วยซัพพอร์ต ต้องเอาคนที่มีเวลามากพอและเชื่อในเรื่องเหล่านี้ และมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินมากพอเท่าที่จะมารับในการอำนวยความสะดวกทุกอย่าง หากรัฐไม่เข้าทาง เอกชนก็ทำอะไรไม่ได้
“ดีไม่ดี ก็ขอให้ดูรัฐบาลนี้ ภูมิใจไทยกับเพื่อไทยมารวมกันได้อย่างไร มันก็รวม แต่ก่อนผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ แต่สุดท้ายใครจะบอกว่ามันตกลงกันได้ ก็ตกลงกันได้ แล้วเมืองไทยได้ไหม ก็ได้ ประชาชนก็ได้” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะที่เข้ามาดูกระทรวงมหาดไทย ปลัดมหาดไทยคนนี้ที่ตนเองตั้งมา อีก 6 ปีเกษียณ เพราะฉะนั้นอะไรที่วางไว้จะยาว ต่อให้มีปัญหาก็มีเวลาที่จะไปแก้ แต่ถ้าเจอปลัด 1 ปี ต้องจุดธูปทุกวันว่าสั่งอย่างนี้ไปจะทำหรือเปล่า แต่ก็เห็นใจ ถ้าไม่ทำขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 เดือนสุดท้าย พอสั่งอะไรไป ขอเวลาอำลาชีวิตราชการก่อน มันไม่ได้ ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนที่ได้ทุกอย่างต้องอยู่ในคน ๆ เดียวกัน ถ้าคนที่จะสร้างปฏิเสธขนบธรรมเนียมประเพณีทุกอย่าง อันนี้ก็ไม่ได้ AI อย่างเดียวก็ไม่ไหว ต้องใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาการแสวงหาความร่วมมือมาผนวกกับเทคโนโลยีต่าง ๆ และเดินหน้าไป
นายอนุทิน กล่าวว่า ในพรรคการเมือง วันนี้ตนเองเอาคนรุ่นใหม่ขึ้นมา อายุ 30-40 ปี แต่ถือว่าได้เปรียบหน่อย เพราะเป็นลูกของบ้านใหญ่ บ้านใหญ่ก็ดี บ้านใหญ่ในบ้านทุกคนส่งลูกเรียนนอกจบดี ๆ ทุกคน มี 2 วิญญาณในตัวเอง วันเสาร์ไปงานบวช งานแต่งงาน งานศพ โกนผมไฟ ทำขวัญนาค พอมากรุงเทพฯ มาด้วยข้อมูล มาด้วย AI มาด้วยการไปแสวงหาเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะมาอภิปรายในสภา
นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าคุยกับกรรมการบริหารพรรคยุคใหม่ ซึ่งก็แซวตลอดว่าหากเอากระดาษไปปิดชื่อพรรค คิดว่าพูดกับพรรคประชาชนอยู่ เป็นคนที่ไฟแรง พรรคประชาชนเป็นพรรคที่ไฟแรง เป็น innovative ไม่กลัวใคร เอาเรื่องข้อมูลต่าง ๆ แต่เด็กรุ่นใหม่ของตนเองยังมีพื้นฐานที่มาจากความเป็นบ้านใหญ่ เห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ดูแลชาวบ้านอย่างไร ถือเป็นสิ่งที่ตนเองได้เปรียบ สร้างคนเหล่านี้ขึ้นมาในพรรคเพื่อให้นำพาพรรคต่อไป
“เด็กพรรคภูมิใจไทยถือไอแพดอยู่ในสภา ก่อนเข้าอภิปรายมีการปิดห้องทำงานส่วนตัว เขามีการซ้อมของเขา วันนี้จะถูกอภิปรายอะไร ก็จะมีการเตรียมข้อมูลและไม่มีหลุดเฟรม เขาซ้อมในห้องของเขา และเวลาเขาออกมาก็จะ Perfect พูดสอดคล้อง นี่คือประเทศไทยในอนาคต ไม่มีมั่ว ทุกอย่างต้องทำตามรูปแบบและกรอบที่ถูกวางไว้ด้วยความเปลี่ยนแปลงของโลก เพราะฉะนั้นเด็กเหล่านี้ที่กำลังจะขึ้นมาและมีความสนใจการเมือง เขามีโอกาสมากมายที่จะสื่อสาร สามารถทำงาน มีรายได้และค่าจ้าง ที่เป็นหลักแสนหลักล้านได้ แต่พอเขาอินในเรื่องการเมืองขึ้นมาเขาก็จะทำอย่างเต็มที่ วันนี้หากพูดกับเขาต้องมีข้อมูล ที่เท่าเขาหรือใกล้เคียงกับเขา สู้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราค่อย ๆ ถอยออกมา” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวถึงการผลักดันชาวอุยกูร์กลับจีนว่า ขึ้นอยู่กับมุมมอง ชาวอุยกูร์มีพื้นฐานมาจากตุรกี เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศนั้น เท่าที่ทราบมาคนเหล่านี้มีศาสนาที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายมุสลิม และเมื่อจีนปฏิวัติประเทศเป็นระบอบการปกครอง คนเหล่านี้ยังเชื่อมั่นในระบบประเพณี ก็เกิดความขัดแย้ง ต้องใช้ความเด็ดขาด
ส่วนเรื่องที่ดิน ตัวเองก็โดนตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่ แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าที่ดินมีกี่อย่าง เพราะมีตั้งแต่โบราณนานเดิม แต่ทั้งหลายทั้งปวงขึ้นอยู่กับว่าได้มาอย่างไร อย่างกรณีสนามกอล์ฟที่อยู่ปากช่อง สิ่งที่เราซื้อมาคือโฉนด ไม่ได้ซื้อเอกสารสิทธิ์ มีการเปลี่ยนมือมา 6-7 ครั้งแล้ว นี่คือกุศโลบายว่าเวลาซื้อที่ดินต้องไปกรมที่ดิน ไม่เหมือนกับทำสัญญา 2 คน หากได้มาโดยไม่ถูกต้อง จึงต้องมีองค์กรของรัฐเข้ามาคุ้มครอง การเสียค่าธรรมเนียมก็เปรียบเหมือนเป็นการรับรองว่าจะสามารถโอนให้ หากบอกอย่างนั้น ก็โดนกันหมด ทั้งที่ดินเขากระโดง อัลไพน์ กรมที่ดินจ่ายค่าชดเชยเป็นหมื่นล้าน พอมีเรื่องขัดแย้งอะไรทางการเมือง ก็จะมีเหตุ สักพักพอทำอะไรไม่ได้ก็จะเงียบไป
สำหรับเขากระโดง รถไฟต้องไปฟ้องศาลว่าที่ดินตรงไหนเป็นของรถไฟ แต่ที่ดินไม่ได้ได้มาในสมัยนายชัย ชิดชอบ ได้มาก่อน ถือครองเพียง 200 ไร่ใน 5,000 ไร่ แต่ต้องมาลงในตระกูลชิดชอบ ถนนวิ่งเต็มในที่ 5,000 ไร่ แล้วจะเป็นของการรถไฟได้อย่างไร เป็นของกรมทางหลวงใช่หรือไม่
“ผมไม่กังวลในเรื่องนี้ แม้แต่พ้นตำแหน่ง มท.1 ไปแล้ว เปลี่ยนอีก 5 มท.ก็ยังไม่จบ และผมทำได้อย่างเดียวเพียงทำตามคำสั่งศาล ไม่รู้ว่าระบบอย่างนี้ทำมาได้อย่างไร ถามว่าวันนี้กล้าไปซื้อที่ดินปากช่องเขาใหญ่หรือไม่” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีนโยบายกาสิโน แต่มาร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บวกกาสิโน เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องสนับสนุน ต้องหาจุดลงตัวกันให้ได้ จนออกมาเป็นร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ที่ให้อำนาจกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับนายกรัฐมนตรีได้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ภูมิใจขวาง วันนี้ไม่มีพรรคใดได้เกินกว่ากึ่งหนึ่ง ก็ต้องมานั่งเจรจากัน
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้ลงนามถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่า กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว อันเป็นประโยชน์ให้เกิดการลงทุน และนำรายได้เข้าสู่ประเทศ จึงขอยืนยันและเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ววานนี้ ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568












