วิปรัฐบาล เห็นพ้องฝ่ายค้าน ชงสภาฯ ถกด่วนปม ‘ตะวัน-แบม’ อดอาหาร
‘ชินวรณ์’ กังวลปัญหาองค์ประชุมปลายสมัยเหตุนายกฯ เปลี่ยนขั้ว วอน ‘ภูมิใจไทย’ เข้าประชุมเคลียร์กัญชาค้างวาระ
วันนี้ (1 ก.พ. 66) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ก่อนเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 25 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง)
นายชินวรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากฝ่ายวิปพรรคภูมิใจไทย ถึงความเห็นของพรรคภูมิใจไทย ต่อวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หากยังไม่ครบองค์ประชุมอีกพรรคภูมิใจไทยก็จะไม่ขอเข้าร่วมรับผิดชอบเป็นองค์ประชุมเช่นกัน
เมื่อวิปรัฐบาลได้หารือกันแล้ว เห็นว่าเรื่องขององค์ประชุมเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนในฐานะวิปรัฐบาลได้ยืนยันไปแล้วว่า เรายังเห็นด้วยที่จะให้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ. … ให้แล้วเสร็จ ส่วนมติจะเป็นอย่างไร ก็ถือว่าให้เป็นไปตามที่ประชุมสภาจะเห็นชอบ
“ผมยืนยันกับพรรคภูมิใจไทยว่าเรื่ององค์ประชุมที่ยังเหลือนับจากสัปดาห์นี้ไปอีก 3 ครั้ง ขอให้ได้ร่วมมือกันในการรักษาองค์ประชุมเพราะต่อจากนี้เราก็มีวาระสำคัญทั้งนั้น”
นายชินวรณ์ ยังเผยว่า ได้มีการประสานเบื้องต้นจากทางวิปฝ่ายค้านแล้ว ว่าจะมีการเสนอญัตติด้วยวาจา ในประเด็นการอดอาหารประท้วงของ ตะวัน และ แบม ในเรือนจำ ในส่วนของวิปรัฐบาล เมื่อได้รับการประสานให้เรื่องนี้ก็มีความเห็นตรงกันว่า การใช้พื้นที่ในสภาฯ เพื่อจะปรึกษาหารือ คลี่คลายสถานการณ์ เป็นเรื่องที่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เข้ามา และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน ส่วนเมื่อเสนอญัตติแล้วสภาจะมีมติอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายชินวรณ์ ย้ำว่า โดยส่วนตัว ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่าพรรคเราเห็นด้วยที่จะให้นำปัญหาดังกล่าวเข้ามา ช่วงเช้านี้ได้ประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ยืนยันว่าไม่ขัดข้อง
ด้วยเรื่องนี้มีความเร่งด่วน อีกทั้งสภาฯ อยู่ในปลายสมัยแล้ว มีเวลาจำกัด จึงได้ต่อรองกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน 2 ประเด็น ได้แก่ ขอให้ฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปรายญัตตินี้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และขอให้เป็นญัตติที่นำเสนอเรื่องนี้ให้ฝ่ายรัฐบาลพิจารณาต่อไป ซึ่งเข้าใจว่าทุกฝ่ายได้ยอมรับเบื้องต้นในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาลต้องฟังรายละเอียดที่ฝ่ายค้านเสนอด้วยวาจาอีกครั้งหนึ่งว่ามีเรื่องใดบ้าง
สำหรับเรื่องที่รัฐบาลเห็นด้วยตรงกันนั้นคือเรื่องเดียวคือเรื่องอดอาหาร ส่วนประเด็นอื่นๆ ต้องพิจารณาหารือกันเพื่อไปสู่ข้อสรุปอีกครั้ง
นายชินวรณ์ ยังมองว่า สถานการณ์ทางการเมือง ปกติแล้วการประชุมสภาในปลายสมัยประชุมทุกพรรคจะให้ความสำคัญและร่วมมือกันในการรักษาองค์ประชุม เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นอยู่กับทุกพรรคที่จะตัดสินใจร่วมกัน
แต่เนื่องจากครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เปลี่ยนฐานะของตัวเองไปเป็นนักการเมืองของพรรคการเมืองที่มีเสียงในสภา 1 คน ด้วยเหตุนี้ในสภาจึงขาดเสียงของผู้นำฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งแกนนำของฝ่ายรัฐบาล 2 พรรคใหญ่ก็มีการตั้งพรรคการเมืองเพื่อมาหาเสียงในคราวต่อไปด้วย เป็นเหตุให้จุดสนใจในคราวนี้แตกต่างจากคราวที่ผ่านมา
“แต่ผมยังขอเรียกร้องว่า ถ้าเราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยด้วยระบบรัฐสภา พรรคการเมืองจะเป็นที่คาดหวังของพี่น้องประชาชน ผมจึงอยากจะเรียกร้องพรรคการเมือง และนักการเมืองที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ขอให้ได้ช่วยกันรักษาองค์ประชุมของสภาให้เดินหน้าไปด้วยดี โดยเฉพาะการแสดงสปิริตในการอยู่เป็นองค์ประชุมช่วงอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เพราะหากมีเหตุอันใดทำให้องค์ประชุมล่มไป ความเสียหายจะตกอยู่กับพรรคพวกรัฐบาลด้วย”
นายชินวรณ์ ยังเผยว่า ประธานรัฐสภายังทำหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรีหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคตามที่ประธานรัฐสภาร้องขอ คือส่งรายชื่อ ส.ส. ที่จะมาเข้าประชุม ให้ครบองค์ประชุมทั้ง 3 ครั้งสุดท้ายนี้ และขอให้รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. ซึ่งมีทั้งหมด 15 คนได้เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน เพราะห่างรัฐมนตรีไม่เข้าร่วมประชุม แต่ไปตรวจงาน จะทำให้ ส.ส. ติดตามไปตรวจงานด้วย