‘วิษณุ’ ชี้ หากศาลฯ สั่ง นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่‘ประวิตร’ ทำหน้าที่นายกฯ ‘ประยุทธ์ ‘ เป็น รมว.กลาโหม
‘วิษณุ’ พร้อมแจงหากศาลรัฐธรรมนูญเรียกถามปม 8 ปี นายกฯ ชี้ หากศาลฯ รับและให้ นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประวิตร จะทำหน้าที่นายกฯ แทน โดย ครม.เดินหน้าต่อตามปกติ แย้ม พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นรัฐมนตรีกลาโหมต่อได้ เพราะมีอีกตำแหน่ง
วันนี้ (22 ส.ค. 65) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะยื่นเรื่องวาระ 8 ปี นายกรัฐมนตรี ให้กับศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า รัฐบาลคงไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวชี้แจงอะไรมาก เพราะยังไม่รู้ว่าศาลจะให้ใครเป็นผู้ชี้แจง หากศาลฯ สั่งให้ใครชี้แจง อาจจะเป็นการสั่งนายกฯ หรือสั่งรัฐบาล หรือสั่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ศาลฯ อาจจะบอกว่ารัฐบาลไม่ต้องมีใครตอบเพราะศาลฯ ทราบ ก็จบไปถือเป็นเรื่องของศาลฯ หรือหากศาลฯ คิดว่าเพื่อความเป็นธรรมให้รัฐบาลตอบ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวพันกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียว แต่เป็นท่าทีของรัฐบาลด้วย ดังนั้น ครม. ก็ต้องตอบ และทางสุดท้ายเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ พลเอก ประยุทธ์ โดยตรง เจ้าตัวก็ต้องไป ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางเหล่านี้ก็ได้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไร แต่ยอมรับว่ามีรายละเอียดคร่าวๆ ที่เตรียมไว้อยู่ ซึ่งหากศาลฯ สั่งให้ใครเป็นผู้ชี้แจงก็พร้อมที่จะชี้แจง แต่อาจต้องขอเวลา 2-3 วัน ในการจัดพิมพ์เอกสาร ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียดว่าจะชี้แจงประเด็นอะไร เพราะอาจเสียรูปคดี โดยหากศาลฯ สอบถามมาจะต้องหารือกับที่ประชุม ครม. หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่ศาลฯ ว่าจะถามใคร เพราะหากถามนายกฯ โดยตรงก็ไม่ต้องแจ้ง ครม. แต่หากศาลถาม ครม. ทางเลขาฯ ครม. จะเป็นคนหารือในที่ประชุม ครม. แต่ก็ยังไม่ทราบว่าศาลฯ จะถามใคร และอาจจะไม่ถามใครเลยก็ได้ ศาลฯ สามารถตัดสินเองได้ก็เป็นได้
เมื่อถามว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาควบคู่กับทางสภาฯ มีความแตกต่างหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่แตกต่าง และเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะที่สภาส่งด้วยการเข้าชื่อ 48 คนเป็นไปตามมาตรา 82 ขณะที่ กกต. สามารถใช้มาตรา 170 ส่งเรื่องโดยไม่ผ่านประธานสภาฯ ซึ่งการส่งควบคู่กันถือเป็นการดี เนื่องจาก กกต. จะได้ศึกษารายละเอียดต่างๆ มากกว่าฝ่ายค้านที่จ้องเพียงแต่จะให้นายกฯ ออกจากตำแหน่ง ดังนั้นต่างฝ่ายก็มีสิทธิส่งเรื่อง แต่ กกต. จะพิจารณาด้วยความรอบคอบกว่า
เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสกดดันจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวกดดันชุมนุม รัฐบาลหวั่นใจหรือไม่ นายวิษณุบอกว่า ไม่ทราบ ขอให้ไปสอบถามกับผู้เกี่ยวข้อง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามีการกดดัน แต่ไม่รู้กดดันใคร ระหว่างนายกฯ กับศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง นายกฯ ไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษในที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติในวันนี้ ซึ่งยังเห็นนายกฯ ทำงานแข็งขัน ในการวางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอยู่
เมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญจะต้องรับพิจารณาภายในวันที่ 24 สิงหาคม หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ศาลฯ ตนไม่ทราบ รวมถึงไม่ทราบว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไร เพราะไม่มีผลอะไร โดยเมื่อประธานชวนส่งเรื่องไป ศาลฯ จะสั่ง 2 อย่างคือ ไม่รับกับรับ ซึ่งหากศาลฯ รับก็จะมีคำสั่งตามมาอีกว่า ให้รับโดยนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ กับ รับโดยนายกฯ ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
หากรับและให้นายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็จะปฎิบัติหน้าที่นายกฯ แทน แต่ว่า ครม. ก็ยังคงสามารถปฏิบัติงานได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องกลัวจะโมฆะ ไม่ว่าวันไหนศาลฯ จะตัดสินว่า พลเอกประยุทธ์ พ้นหรือไม่พ้นตำแหน่ง ครม. ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ยกตัวอย่างให้คิดตามได้ง่ายว่า หากไม่มี พลเอกประยุทธ์ ครม. ก็ยังคงต้องอยู่และทำหน้าที่ได้ต่อไป ก็สามารถทำไปอย่างนั้น ซึ่งหากศาลฯ ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พลเอกประยุทธ์ จะไม่สามารถทำหน้าที่รักษาการได้ แต่ต้องไม่ลืมว่า พลเอกประยุทธ์ มีอีกตำแหน่งคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งตำแหน่งนี้ไม่มีข้อกำหนดวาระ 8 ปี พลเอกประยุทธ์ก็ยังปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้ได้ อยู่ 20 ปีก็ได้ แต่นายกฯ อยู่เกิน 8 ปีไม่ได้ ดังนั้นหากตัดสินให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พลเอกประยุทธ์ ก็มานั่งเป็นลูกน้อง พลเอกประวิตร
และหากศาลฯ สั่งให้ครบ 8 ปีแล้วพ้น ณ เวลานั้นก็ถือว่าพ้นจากตำแหน่งนายกฯ แต่สามารถทำหน้าที่รักษาการได้ ส่วนควรหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ตนไม่รู้ว่าท่านนายกฯ จะคิดอย่างไร แต่ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร เพราะเพียงแค่ไม่กี่วัน นายชวน ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็จะสรรหานายกฯ ภายใน 3 วัน 7 วัน
เมื่อถามถึงกรณีหากศาลฯ รับ แต่ไม่สั่งอะไรเลย แต่สุดท้ายมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากนายกฯ ระหว่าง 24 สิงหาคม จนถึงวันที่ศาลฯ สั่ง มติครม. และการสั่งการต่างๆ จะมีผลอะไรหรือไม่ นายวิษณุ ยืนยันว่า ทุกอย่างจะสมบูรณ์หมด ยกตัวอย่างอีกครั้งว่าหากพลเอกประยุทธ์เสียชีวิต คณะรัฐมนตรีก็ยังคงอยู่และที่ทำไปทั้งหมดก็ไม่โมฆะ หรือหากยุบสภา พลเอกประยุทธ์ก็พ้นจากตำแหน่งแต่คณะรัฐมนตรีก็ยังคงอยู่ และปฎิบัติหน้าที่ไป ทุกอย่างก็ไม่ได้โมฆะ คำตอบคือเช่นนี้
เมื่อถามว่าหากพลเอกประวิตร ขึ้นมาปฎิบัติหน้าที่แทน ต้องมีคำสั่งอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องมีคำสั่งและย้อนไปถึงมติเดิมที่ พลเอกประยุทธ์ เคยลงนามในคำสั่งไว้ว่า หากนายกฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้พลเอกประวิตร เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนคนที่ 1 หลังจากนั้นจะมีการออกคำสั่งโดยอ้างคำสั่งดังกล่าวนี้ ให้พลเอกประวิตรทำหน้าที่แทน โดยผู้ที่จะเเจ้งรายละเอียดให้ ครม. รับทราบและปฏิบัติตาม คือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ จะชี้แจงรายละเอียดดังกล่าวให้กับที่ประชุมได้รับทราบ เพราะเป็นเรื่องจำเป็นที่คณะรัฐมนตรีต้องรู้และไม่งง