นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า การพิจารณาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านควรยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด ร่วมกันทำให้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นวาระสำคัญของชาติ และช่วยกันเร่งสร้างบรรยากาศความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประชาชนในสังคม เพื่อช่วยกันปลดล็อคหาทางออกให้กับประเทศ โดยลดอคติ การแบ่งฝักฝ่าย และลดการสร้างเงื่อนไขต่างๆ เพราะเชื่อว่านับตั้งแต่ที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ทุกฝ่ายที่เป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศ ล้วนตระหนักดีถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ที่สำคัญพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเช่น พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้แสดงท่าทีร่วมกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และได้กำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
“หากทำได้จริง นับเป็นปรากฎการณ์ที่ดีของประเทศ เพราะจะทำให้ปัญหาการแก้รัฐธรรมนูญที่สั่งสมมานาน มีโอกาสคลี่คลาย เพราะทุกภาคส่วนในสังคม ทั้งภาคีเครือข่าย/องค์กรภาคประชาสังคม/องค์กรวิชาการและนักศึกษา/พรรคการเมืองทั้งฝ่าย7พรรคฝ่ายค้านและพรรคในฝ่ายรัฐบาล เช่น พรรคประชาธิปัตย์ เริ่มมองเห็นและแสดงท่าทีถึงความร่วมมือในการแสวงหาหนทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
นายภูมิธรรมย้ำว่า การมีส่วนร่วมสร้างความร่วมมือในการแก้รัฐธรรมนูญ ควรเป็นประเด็นร่วมกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะรัฐบาล ที่ต้องใส่ใจกับปมปัญหาความขัดแย้งและระดมพลังทางความคิดและปัญญามาแก้ไข ลดอคติ ลดการตั้งป้อมปฏิเสธโดยมองว่ายังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะรัฐธรรมนูญที่เกิดจากการมีส่วนร่วมจะทำให้ประเทศได้รับการยอมรับ นำไปสู่ความมั่นคงทั้งจากภายในและต่างประเทศ เชื่อมโยงไปถึงการแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนที่กำลังวิกฤติในปัจจุบัน