POLITICS

พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังลุยต่อคดี “บิลลี่” อธิบดี DSI ยืนยัน ครม.โยกย้ายรองอธิบดี เป็นการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น

วันนี้ 16 ต.ค.2562 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าพบ พล.ต.ต.สันติ์ สุขวัจน์ รอง ผบช.สพฐ.ตร.(3) ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ตำรวจภูธร ภาค7 เพื่อติดตามผลการพิสูจน์วัตถุของกลาง (ถังน้ำมัน) กรณี คดีการฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) ซึ่งยังทำงานปกติ แม้มีมติ ครม.ให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม

ขณะที่คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีเอกสารชี้แจง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 โดยแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม 4 ราย ประกอบด้วย พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายพยนต์ สินธุนาวา รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ และนายมณฑล แก้วเก่า รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมว่า ถือเป็นการโยกย้ายให้พ้นหน้าที่การเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 13/2562 (คดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่) นั้น

พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้าย ตามมติ ครม.ดังกล่าว เป็นการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นเทียบเท่าอธิบดี ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งของข้าราชการ โดยพันตำรวจโท กรวัชร์ ฯ ได้สมัครใจเข้ารับการคัดเลือกตามประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เรื่อง รับสมัครคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือก เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรม ลงวันที่ 20 กันยายน 2562 จึงมิได้เป็นการโยกย้ายให้พ้นหน้าที่การเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษคดีการหายตัวไปของนายพอละจี แต่อย่างใด

“ขอให้สาธารณชนอย่าได้เข้าใจคลาดเคลื่อน และขอให้มั่นใจการทำงานแบบสหวิชาชีพของกรมสอบสวนคดีพิเศษในรูปแบบคณะกรรมการ โดยปราศจากแทรกแซง ซึ่งประกอบด้วย พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีพันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ตามคำสั่งเดิมที่มีอยู่แล้ว และยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง แต่จะมีรองอธิบดีท่านอื่น ซึ่งกำกับดูแลการทำงานของกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคมาทำหน้าที่แทน พันตำรวจโท กรวัชร์ ฯ ตามสายบังคับบัญชา

คดีหายตัวไปของนายพอละจี ฯ เป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความสำคัญ โดยตัวผมเองจะเข้าไปกำกับดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิดด้วย”

กรมสอบสวนคดีพิเศษอาจเชิญพันตำรวจโท กรวัชร์ ฯ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ เนื่องจากพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ 2547 ได้เปิดกว้างในการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษใด มีเหตุจำเป็นต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นพิเศษ อธิบดีกรมสอบสวนอาจแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษได้

Related Posts

Send this to a friend