ผบ.ทบ.ถาม “ธนาธร” วางแผนอะไรกับ “โจชัว หว่อง” ประกาศลั่นถึงตาย ก็ไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 1 ย้ำประเทศไทยจะแบ่งแยกไม่ได้
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษในหัวข้อ แผ่นดินของเราในมุมมองฝ่ายความมั่นคง ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยเชิญนิสิต นักศึกษา นักวิชาการ นักการเมือง ผู้นำองค์กร สื่อมวลชนรวมถึงศิลปินดารา กว่า 400 คนเข้าร่วมรับฟังเช่น นายสมชาย แสวงการ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ฉัตรชัย-สินจัย เปล่งพานิช “ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค และสุชาติ ชวางกูร เป็นต้น
ผู้บัญชาการทหารบกย้ำว่า ทหารมีหน้าที่พิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาเอกราช อธิปไตย บูรณาการแห่งอาณาเขต ดูแลความมั่นคงของรัฐ พร้อมยกข้อความ “ถ้าคุณไม่ใช่คนที่เต็มใจและพร้อมที่จะจับอาวุธขึ้นมาเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติแล้วก็ขอ จงหยุดวิพากษ์วิจารณ์คนที่กำลังทำหน้าที่นั้นอยู่
พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้เปิดภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ โดยเฉพาะเหตุความขัดแย้งทางการเมืองของฮ่องกง ที่พลเอกอภิรัชต์โชว์ภาพนายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกงถ่ายคู่กับบุคคลปริศนา พร้อมกับบอกว่า ก่อนหน้านี้ฮ่องกงเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยว แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยากไป จะมีก็แค่นักการเมืองบางคนที่ไปและถ่ายรูปคู่เพื่อให้กำลังใจ โจชัว หว่อง เอง ก็มาไทยบ่อยครั้ง จึงไม่ทราบว่ามาพบใครหรือมาวางแผนอะไรกับคนที่เดินทางไปฮ่องกงหรือไม่ อยากถามว่าถ้าวันหนึ่ง มีคนมาปลุกปั่นเยาวชนไทยเหมือนในฮ่องกง เราจะออกไปชุมนุมหรือไม่
“ฝ่ายความมั่นคงจะไม่มีวางมือ จะหาผู้ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับความไม่สงบที่เกิดขึ้น บางคนลงไปตั้งวงเสวนา พูดยกตัวอย่างจะแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 1 ยืนยันผมไม่ได้ขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ แต่มาตรานี้จะแตะไม่ได้ ต่อให้ตายก็แตะไม่ได้ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวแบ่งแยกไม่ได้”
พลเอกอภิรัชต์บอกว่า คนกลุ่มนี้มองทหารเป็นศัตรู และที่ผ่านมาทหารถูกเป็นเป้าโจมตีอยู่ตลอด ยืนยันว่าตนเองทำงานตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เลือกนาย ทหารคือหลักของความมั่นคงที่จะต้องปกป้องอธิปไตย และขอให้คิดให้ดีที่ผ่านมาทุกครั้งที่บ้านเมืองเกิดภัยพิบัติ เกิดวิกฤติ หัวหน้าพรรค การเมืองหนีหมด ทิ้งลูกน้องติดคุก ขึ้นศาล คนที่ร่วมชุมนุมกลับไปจนเหมือนเดิม ใช่หรือไม่
พลเอกอภิรัชต์บอกว่า ไม่ต้องเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูดมาทั้งหมด แต่ขอถามว่า ปัญหาเรื่องความมั่นคงจะให้ใครแก้ นักวิชาการหรืออาจารย์บางคน ที่คบคิดกับพวกคอมมิวนิสต์เดิม ร่วมกับนักเรียนนอก ซ้ายจัดดัดจริต ที่ไปเรียนจากประเทศล่าอาณานิคม ชอบอ้างเลข 2475 และชอบอ้างว่า ตัวเองเป็นนักประชาธิปไตย แต่มีวาทกรรมจาบจ้วง หรือจะเลือกกลุ่มนักการเมืองที่เลือกพวกพ้อง ไม่ห่วงผลประโยชน์ของชาติ รวมถึงยังมีนักการเมืองในภาคใต้ ที่เกาะแข้งเกาะขาพ่อของตัวเองในสมัยก่อน หรือจะเชื่อนักการเมืองที่เป็นเหมือนผึ้งแตกรัง ที่ลูกพี่ใหญ่หนีไปอยู่ต่างประเทศ หรือจะเชื่อนักธุรกิจ เชื่อคนที่ร่วมชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง แต่ละคนมีพฤติกรรมล้มล้างชาติ สถาบัน
“คนทั้ง 3 กลุ่มที่ได้เอ่ยมานั้น ไม่ผิดหรอกที่จะมาเป็นผู้นำประเทศนี้ เพราะในอดีตก็เคยมี แต่ขอว่าถ้าไม่คิดล้มล้างสถาบัน ไม่คิดเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองประเทศ ก็สามารถมาบริหารประเทศได้ และผมในฐานะทหารยืนยันว่า จะอยู่เคียงข้าง”พลเอกอภิรัชต์กล่าว
