“ปิยบุตร” อัด กกต. ไม่เคลียร์สังคม กรณีเอกสารคดีเงินกู้หลุด แต่กลับใช้วิธีปกป้องตนเอง จี้เอาผิดคนปล่อยเอกสาร
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การที่กกต.ไม่ปฏิเสธว่าเอกสารหลุดในคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ ที่ตนเองนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนเป็นเอกสารปลอม แต่กลับขู่จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ปล่อยเอกสารชุดนี้ออกมา แสดงให้เห็นว่า เอกสารชุดนี้เป็นของจริง
แทนที่กกต.จะพยายามชี้แจงให้สาธารณชนคลายความสงสัย กกต.กลับเลือกที่จะปกป้องตัวเอง ด้วยการไปตามหาว่าเอกสารชิ้นนี้เผยแพร่ออกมาได้อย่างไร ใครเป็นคนเผยแพร่ แถมยังขู่ในทางกฎหมายอีกด้วย ทำให้คนใน กกต.เองเกิดอาการที่ทนไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น คือแทนที่จะไปแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ กลับเลือกที่จะปกป้องตัวเอง
นายปิยบุตร กล่าวว่า ตามหลักกระบวนพิจารณาที่ถูกต้อง จะต้อวให้โอกาสคู่ความ ในการโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานเต็มที่ รวมทั้งเปิดเผยกระบวนการพิจารณาให้คู่ความได้รับรู้ ไม่ใช่การปิดกั้นไม่ให้คู่ความได้รับรู้ในกระบวนการพิจารณาเลยตามที่เป็นอยู่ในขณะนี้
“ต้องไม่ลืมว่า กกต.คือองค์กรอิสระไม่ใช่นักร้อง ที่เอาข่าวสารต่างๆ ตัดแปะแล้วไปยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น กระบวนการพิจารณาความจำเป็นจะต้องประกันสิทธิให้แก่คู่ความด้วย” นายปิยบุตร กล่าว
ส่วนที่กกต.ชี้แจงว่าแบ่งการพิจารณาคดีนี้เป็น 2 ช่องทาง วิ่งคนละเลน ช่องทางแรกคือ การดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 66 ช่องทางที่สองคือการดำเนินการยุบพรรคตามมาตรา 72 นั้น นายปิยบุตรบอกว่า กกต. อาจลืมไปว่าได้เรียกตนเอง นายธนาธรและเหรัญญิกพรรคอนาคตใหม่ ไปสอบสวนในฐานะพยานของช่องทางแรก แต่คำร้องยุบพรรคในมาตรา 72 กกต. กลับเอาคำให้การของพยานในกระบวนการตามมาตรา 66 มาใช้ ซึ่งถือเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้น กกต. จะต้องเรียกตนเองหรือนายธนาธร ไปชี้แจงกรณีความผิดตามมาตรา 72 ด้วย
“กระบวนการพิจารณาในชั้น กกต. เขียนไว้ชัดเจนว่า การดำเนินคดีจะต้องมีการตั้งข้อกล่าวหาก่อน แต่ทั้งผมและคุณธนาธร ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาใดๆทั้งสิ้น และเพิ่งมาทราบจากเอกสารที่หลุดมาว่า กรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 13 ได้ยกคำร้องด้วยมติเอกฉันท์ การที่กกต.ไม่ยอมหยุดและพยายามที่จะดำเนินเรื่องต่อไป พฤติกรรมแบบนี้พรรคอนาคตใหม่มีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่า การดำเนินการพิจารณาของ กกต.นั้น ตั้งธงไว้ก่อนใช่หรือไม่ เมื่อดำเนินการแล้วไม่ตรงตามธงเลยหาช่อง โดยใช้ช่องมาตรา 72 “ นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตรย้ำว่า การกู้เงินของพรรคการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่มีแค่พรรคอนาคตใหม่พรรคเดียว และไม่ถือว่าเป็นความลับ เพราะการกู้เงิน ต้องอยู่ในงบการเงิน ซึ่งต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะในทุกๆปีงบประมาณอยู่แล้ว ดังนั้นการนำเรื่องกู้เงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ผิดมาดำเนินคดี จะต้องยุติ หรือหากจะไม่ให้พรรคการเมืองกู้เงิน วันหน้าก็ต้องเขียนไว้ให้ชัดเจน
