ส่วนที่ระบุว่า ขอให้ก้าวผ่านเกมการเมืองนั้นตนหมายความว่าทำอย่างไร การเมืองกับการบริหารราชการแผ่นดิน จะไม่ถูกนำมาเกี่ยวพันกันมากหนัก เพราะการบริการราชการแผ่นดินคือกลไกล ที่ได้มาซึ่ง ส.ส. การตั้ง ครม. การทำงานของรัฐบาล แล้วเดินหน้าทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายทั้ง 12 ประการ ให้มีประสิทธิภาพไม่ทุจริต
ส่วนการเมือง เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค การคัดเลือกตัวแทนพรรค มาเป็นรัฐมนตรี จึงเอามาเกี่ยวข้องกันไม่ได้ และตนย้ำว่า เคารพในสัดส่วนของพรรค แต่บางส่วนตนจำเป็นต้องบริหารเอง อย่าเอาเรื่องนี้มากดดันกัน หากวันนี้นำทุกอย่างที่แต่ละคนเสนอเข้ามาก็จะมีสัดส่วนรัฐมนตรีเกินกว่าที่กำหนดแล้ว
ดังนั้น ขอยืนยันว่า “ขณะนี้ยังไม่มีการปรับ ครม.” แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่มีการปรับ
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าเรื่องการเมืองไม่ได้ทำให้ตนเองเสียงสมาธิ เพราะได้รับกำลังใจจากประชาชน อีกทั้งนักการเมืองหลายคนก็ดีกับตน และให้ความร่วมมือในการทำงาน เพราะทุกอย่างต่างคนก็ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนเองจะต้องให้กำลังใจด้วยหรือไม่นั้น เรื่องนี้ “พลเอกประวิตร มีกำลังใจของท่านอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่า พลเอกประวิตรไม่เคยพูดว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรคแต่ถ้ามีความจำเป็น จะต้องทำหน้าที่นี้ก็จะทำอย่างดีที่สุด”
ส่วนที่พลเอกประวิตร จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค แค่ 6 เดือน เพื่อแก้ปัญหาการแบ่งกลุ่มพรรคพลังประชารัฐนั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องในพรรคที่ต้องแก้ไขปัญหา และพรรคที่สนับสนุนตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ ซึ่งแต่ละคนก็รับฟังความคิดของตน และเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของหัวพรรคที่ต้องทำ เพื่อไม่ให้มีการแบ่งกลุ่มแบ่งพวก เพื่ออำนาจการต่อรอง เพราะใครจะเป็นตำแหน่งก็จะต้องเป็นเรื่องที่พรรคเสนอมา และย้ำว่า “ไม่มีใครสามารถต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับตนเองได้”
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่พลเอกประยุทธ์ จะเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรค ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิด