POLITICS

นายกฯ ชี้ ไทยมีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม – มีต้นทุนทรัพยากร เตรียมต่อยอดเพิ่มศักยภาพบุคคล

นายกฯ ปาฐกถาหัวข้อ “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ไปอย่างไรให้มีพลัง” ชี้ ไทยมีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม – มีต้นทุนทรัพยากร เตรียมต่อยอดเพิ่มศักยภาพบุคคล เผย ประชาชน และรัฐบาลเป็นหุ้นส่วนพัฒนาประเทศให้รุ่งเรือง

วันนี้ (21 ต.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ไปอย่างไรให้มีพลัง” ในงานเสวนา เดลินิวส์ ทอล์ก 2024 (Dailynews Talk 2024) “Soft Power: โอกาสประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 2 – 3 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ประเทศไทยติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางมาหลายสิบปีแล้ว การจะยกระดับให้เป็นประเทศรายได้สูง คงไม่ใช่เรื่องง่าย และด้วยปัจจัยเรื่องความสามารถในการแข่งขัน คุณภาพของการศึกษา และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจครั้งใหญ่ซึ่ง 1 ในยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์

รัฐบาลเชื่อมั่นว่าซอฟต์พาวเวอร์ จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้พุ่งทะยานภายในทศวรรษหน้า และจะเป็นนโยบายที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้หลายสิบล้านคน

ประเทศไทย เราร่ำรวยด้วยทุนวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ขายได้ พัฒนาได้ ทำให้ชาวต่างชาติหลงใหลได้ไม่ยากอยู่แล้ว และเชื่อมั่นว่า คนไทยเก่ง มีศักยภาพ มีทักษะสร้างสรรค์ที่รอโอกาสในการพัฒนา

ดังนั้น หัวใจสำคัญของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์คือ การพัฒนาแรงงานทักษะต่ำ ให้เป็นแรงงานทักษะสูง แล้วเพิ่มมูลค่าของสินค้า และบริการจากทักษะสูง ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดด้วยนวัตกรรม สร้างแบรนด์ดิ้งที่มีเรื่องเล่า

การต่อยอดเพิ่มเติมทักษะเดิมที่มีอยู่แล้ว หรือ Up – skill และการฝึกอบรมสร้างทักษะใหม่ หรือ Re – skill เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานราชการ นักวิชาการมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน แรงงาน ก็พูดคำนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ที่ผ่านมา มักทำกันแยกส่วน ยังไม่มีการบูรณาการ หรือ integrate กันเป็นระบบอย่างจริงจัง

การทำนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ครั้งนี้ภายใต้โครงการ “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” หรือ OFOS – One Family One Soft Power เราจะทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันขับเคลื่อน ออกแบบหลักสูตรการอบรมที่ใช้ประกอบอาชีพได้จริง ทั้งการอบรมในสถานที่ On- site และการอบรมออนไลน์ ทุกคนเรียนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ทำให้การยกระดับศักยภาพระดับทักษะจากขั้นต่ำ ไปสู่ขั้นกลาง และขั้นสูงอย่างไม่มีข้อจำกัด และให้เข้าถึงง่ายที่สุด

เป้าหมายของเรา คือ ทำให้คนไทยสามารถประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ทุกสาขาได้ ยกระดับสินค้า และบริการจากวัฒนธรรมไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น สร้างสรรค์มากขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้นทำให้ไม่ต้องกังวลในการแข่งขันเรื่องราคากับผู้ผลิตสินค้าที่มีข้อได้เปรียบในการผลิตจำนวนมาก หรือ Economy of scale

ตัวอย่างเช่น Korakot แบรนด์ปฏิมากรรมไม้ไผ่จากภูมิปัญญาไทย เขาสานด้วยไม้ไผ่เป็น โคมไฟ เป็นของตกแต่ง เป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่สวยงาม ใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่เล่นแสงและเงาอย่างโดดเด่น ซึ่งประสบความสำเร็จมากในเวทีทั่วโลกจนแบรนด์หรูของฝรั่งเศส จ้างแบรนด์ Korakot ทำ window backdrop ให้กับคอลเล็กชั่นปัจจุบัน

“นี่คือภาพที่รัฐบาลอยากเห็นการพัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านแล้วใส่ความคิดสร้างสรรค์ไปให้ถึงระดับโลก เราอยากยกระดับช่างศิลป์ทุกคน ทุกท้องถิ่น ให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ ใช้ทักษะสร้างสรรค์แบบนี้ไปให้ถึงระดับโลก เพราะตลาดโลกกว้างใหญ่ ไร้พรมแดน ไม่มีขอบเขตจำกัด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

หรืออย่างอุตสาหกรรมอัญมณีไทยที่เติบโตจากหลักหมื่นล้านเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นกว่า 500,000 ล้านในปัจจุบัน และยังสามารถเติบโตได้อีกหลายเท่า แต่ขาดแคลนช่างอัญมณีจำนวนมาก เพราะไม่มีการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ ขาดแรงงานทักษะสูง จนต้องแย่งตัวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากในการเสียโอกาส เพราะขาดแรงงานที่มีศักยภาพตรงนี้มาก นอกจากนั้น เราต้องไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการผลิตอัญมณีของโลกเท่านั้น เรายังจะผลักดันให้มีอัญมณีที่เป็นแบรนด์ไทยให้มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับในระดับโลกอีกด้วย

จากที่ได้ไปประชุม ACD รวมถึง ASEAN ที่ผ่านมาหลายประเทศให้ความสนใจใน วัฒนธรรมของไทยมากโดยเฉพาะเรื่องอาหารไทย ซึ่งแต่ละชาติก็มีความสนใจแตกต่างกันไป

สำหรับวงการอาหาร เราต้องเปลี่ยนประเทศไทย จากเกษตรกรรมที่ส่งออกพืชผล สู่อุตสาหกรรมอาหารสมัยใหม่นอกจากเราจะผลักดัน “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ให้มีร้านอาหารไทยที่มีรสชาติแท้ และใส่ความคิดสร้างสรรค์ในทุกจานไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว เรายังจะส่งออกอาหารไทยพร้อมทานที่มีรสชาติอร่อย โดยใช้เทคโนโลยีถนอมอาหารที่เก็บได้นาน 2 ปี เติมนวัตกรรมอาหารด้วย Food Lab ที่ช่วยรักษารสชาติ และกลิ่นหอมเหมือนปรุงสุกใหม่ ๆ ให้กับนักชิมทั่วโลก

ตัวอย่างที่โด่งดังมากในอเมริกา คือ ขนมครกแช่แข็ง ที่วางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ขายดีมาก จนสร้างกระแสไวรัลเพราะสามารถคงรสชาติของขนมครกไว้ได้ดี การใช้นวัตกรรมถนอมอาหาร จะทำให้อาหารไทยเข้าถึงคนทั่วโลกได้ง่ายมากขึ้น เหมือนกับอาหารอิตาลีที่ครองใจคนทั่วโลกในเวลานี้ ทุกประเทศมีร้านอาหารอิตาลี ทุกซุปเปอร์มาร์เก็ตมีอาหารอิตาลีแช่แข็งขาย ทั้งพิซซ่า และ พาสต้า

เราเชื่อว่าอาหารไทยพร้อมทาน เช่น ต้มยำกุ้ง พะแนงเนื้อผัดกะเพรา ต้มข่าไก่ มีตลาดรองรับทั่วโลก และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก

ทุกวันนี้นวัตกรรมด้านถนอมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีรีทอร์ท (Retort) การทำอาหารแช่แข็ง (Frozen Food) การยืดอายุอาหาร การคงความสดของอาหารเอาไว้ มีราคาถูกลงมาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้คือโอกาสใหม่ของอาหารไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ลองนึกภาพว่า ถ้าเรามีโรงสีข้าวในชุมชนได้ เราก็สามารถมีนวัตกรรมถนอมอาหารแบบเครื่องรีทอร์ทในชุมชนซึ่งจากการวิจัยของสถาบันอาหาร ราคาเครื่องเหลือเพียงไม่กี่แสนได้เหมือนกัน ชุมชนไหนที่มีเมนูเด็ด จะสามารถเพิ่มมูลค่าของเมนูเด็ดของชุมชนที่สามารถส่งออกได้ทั่วโลกมากมาย

“เราต้องเร่งทำ เพราะความมั่นคงทางอาหารจะเป็น แหล่งรายได้ และมีความสำคัญสำหรับโลกในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ประเทศไทยยังมีโอกาส ในอุตสาหกรรม Wellness เพราะเทรนด์ทั้งโลกหันมาสนใจ การอยู่ดีมีสุข สุขภาพกาย และใจ ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจนี้กำลังเติบโตมากทั้งโลก และรวมถึงบ้านเรา ซึ่งประเทศไทยเรามีครบวงจร เรื่องอาหารสุขภาพ สมุนไพรไทย เรามีภูมิปัญญาซึ่งเป็นมรดกโลกอย่างการนวดไทย มีมวยไทยสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และยังโด่งดังไปทั่วโลก รวมถึงความแข็งแกร่งทางการแพทย์ของประเทศไทยทำให้ประเทศไทยมีโอกาสอย่างมากในอุตสาหกรรม Wellness ซึ่งต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบต่อไป

นอกจากนี้ เราจะยกระดับการท่องเที่ยวด้วย Human made tourism ซึ่งเราจะยกระดับเทศกาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาสงกรานต์ ลอยกระทง หรือระดับท้องถิ่นเช่น ผีตาโขน แห่เทียนพรรษา บุญบั้งไฟ เสริมภาพลักษณ์ Festival country ประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีเทศกาลใหม่ให้มาเที่ยวได้เสมอ ซึ่งจะสร้างเศรษฐกิจเทศกาล ให้หมุนเวียนอย่างมากมายในทุกท้องถิ่น

รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่สำหรับการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญ ทั้งหมดนี้คือโอกาสของประเทศไทยในกรอบของคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ เราจะยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชนตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้

“สิ่งสำคัญที่สุดคือ พี่น้องประชาชนกับรัฐบาล เราคือหุ้นส่วนประเทศไทยร่วมกัน หุ้นส่วนประเทศไทย จะช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรือง เป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูง และคนไทยทุกคนไม่ยากจนอีกต่อไป เมื่อพี่น้องประชาชนพัฒนาศักยภาพทักษะของตัวเอง ยกระดับรายได้ และฐานะให้ร่ำรวย รัฐบาลก็จะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้นตามไปด้วย ภาษีที่เก็บได้จะนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองขึ้นไปอีก มาทำงานร่วมกันเพื่อประเทศที่เรารักของเราทุกคน เพื่อให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อม ๆ กัน“ นายกรัฐมนตรี กล่าว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat