กลุ่มอดีตพนักงาน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เกือบ 20 คน เดินทางมาที่ศาลแรงงานกลาง เพื่อขอคพปรึกษาจากนิติกร กรณีถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร หลังมีการคืนช่องสัมปทานทีวีดิจิตอล ช่อง 13 Family และ ช่อง 28 SD ซึ่งมีการจ่ายเงินเลิกจ้าง สิ้นสุดการจ้างไปเมื่อวานนี้ 31 ก.ค.62
นายวรชิต ตรีพืช อดีตโปรดิวเซอร์ข่าวการเมือง ในฐานะ ตัวแทน กล่าวว่า ต้องการมาร้องขอความเป็นธรรม จากศาลแรงงาน ซึ่งตนเองทำงานกับช่อง 3 มา 24 ปี ปัจจุบันอายุ 49 ปี ก็ตกใจกับการถูกเลิกจ้าง และมีหลายคำถามที่เกิดขึ้น แต่เหตุที่มายังศาลแรงงานกลาง ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีแต่มาปรึกษานิติกรเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ
ซึ่งเหตุที่มองว่าไม่เป็นธรรม คือ
1.ผู้บริหารไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ถึงการเลิกจ้าง โดยให้พนักงานพ้นสภาพโดยทันที ก่อนที่จะมีการยุติออกอากาศของช่อง 13 Family และ ช่อง 28 SD ที่จะถึง 30 กันยายน 2562 แต่บอกเลิกจ้างในต้นเดือนกรกฏาคม และเลิกจ้างตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.
2.การจ่ายเงินชดเชยพิเศษไม่เป็นไปตาม มาตรา 118 ของกฎหมายแรงงาน ทั้งที่ มาตรา 44 คำสั่ง คสช.ที่ระบุว่าต้องดูแลพนักงานอย่างดีรวมทั้งมีหนังสือชี้แจงจากกรรมการผู้จัดการใหญ่ระบุว่าจะให้เงินชดเชยมากกว่าที่กฎหมายกำหนด และเงินที่บริษัทได้รับจาก กสทช.มีจำนวนมากที่ใช้เลิกจ้างพนักงาน
3.บริษัท ปลดพนักงานออก อ้างเรื่องการลดต้นทุน แต่บริษัท ก็มีการรับพนักงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เงินเดือนที่สูง
4.พนักงานมีการทำหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมยื่นไปที่ผู้บริหาร แต่ได้รับการเพิกเฉย โดยในสาระสำคัญจะเป็นการถามเกี่ยวกับเกณฑ์ในการพิจารณา แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
5.มีการเลิกจ้างคนที่อยู่ในบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับทีวีดิจิทัล 13 และ 28
นาย วรชิต. กล่าวว่า เดิมมึอดีตพนักงานที่เห็นว่าไม่เป็นธรรม รวมกลุ่มกันกว่า 30 คน แต่มีการยื่นเงื่อนไขต่างๆให้ ซึ่งเป็นสิทธิของทุกคนที่เกรงว่าจะไม่ได้เงินเลิกจ้าง แต่ในส่วนคนที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องหาคำปรึกษาทางกฏหมาย ต่อไป และเตรียมเข้าพบ กสทช.เพือหารือถึงแนวทางช่วยเหลือเยียวยาด้วย
นายวรชิต ยอมรับว่า มีหลายคนที่ต้องหางานทำใหม่ ไปตามเส้นทาง ซึ่งการหางานในวงการสื่อ อาจเป็นเรื่องยากในภาวะแบบนึ้ ทำให้หลานคนก็เสียใจที่ไม่ได้ทำงานข่าวที่รักอีกแล้ว