โดยคดีนี้เริ่มเป็นข่าวจาการที่ สำนักข่าวอิศราเผยแพร่รายงาน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและภรรยา โอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดียจำนวน 900,000 หุ้น มูลค่า 9 ล้านบาทให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ในวันที่ 21 มีนาคม 62 หรือก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง 3 วัน ในวันที่ 22 มีนาคม
จากนั้น วันที่ 23 มี.ค.นายธนาธรโพสต์เฟซบุ๊กแสดงตราสารโอนหุ้น ลงวันที่ 8 ม.ค. 2562 ยืนยันว่า ได้โอนหุ้นไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. หรือ1 เดือนก่อนที่นายธนาธรจะไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งในมันที่ 6 ก.พ. 2562
25 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายธนาธร
29 มี.ค. นายธนาธรเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง ยืนยันว่าได้ขายหุ้นให้มารดาไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 62 และได้นำสื่อมวลชนไปดูบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด บนชั้น 7 บนอาคารไทยซัมมิท เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทนี้ปิดกิจการไปแล้ว
2 เม.ย. นายธนาธรออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงราบละเอียดผู้ถือหุ้น และยืนยันว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและไม่ได้มีพฤติการณ์ ‘ส่อพิรุธ’ ตามที่สื่อมวลชนบางฉบับพยายามชี้นำ
4 เม.ย. กกต. มีมติตั้งคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนเพื่อดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน กรณีการกล่าวหานายธนาธรว่ามีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ จากการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทสื่อ
22 เม.ย. เลขาธิการพรรค อนค. เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะที่ฝ่ายกฎหมาย เข้ายื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ กกต.
23 เม.ย.กกต.มีหนังสือเชิญไปรับทราบข้อกล่าวหา
30 เม.ย.นายธนาธร ทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อเท็จจริงและแสดงหลักฐาน
และส่งเอกสารเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 7 พ.ค.
17 พ.ค. มีหนังสือด่วนที่สุดจากกกต.เชิญไปให้ถ้อยคำ