นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างการปาฐกถาในพิธีมอบเกียรติบัตร เข็มเกียรติคุณ โล่เกียรติคุณ นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 (ปธพ.7) ว่า ระบบการให้บริการด้านสาธารณสุขของไทย นับว่ามีคุณภาพเป็นที่เชิดหน้าชูตา เพราะมีการวางรากฐานมาอย่างดี องค์พระประมุขสละทรัพย์ส่วนพระองค์มาดูแลระบบการให้บริการด้านสาธารณสุข ทำให้เราก้าวหน้าในเรื่องนี้ ไม่ต้องอายชาติไหน และแม้ที่ผ่านมาจะมีเสียงติติงว่าโรงพยาบาลรัฐต้องรอนานและแออัด ก็อยากให้เข้าใจว่าเพราะโรงพยาบาลรัฐของเราทำงานตามมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ และยึดหลักว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รักษาทุกคนแม้แต่ชาวต่างชาติ และแม้จะขาดทุนก็ตาม พร้อมย้ำชัด ลงเรือเดียวกันกับข้าราชการกระทรวงทุกคน จะช่วยเหลือกัน แต่ไม่ก้าวก่ายการทำงาน
ในส่วนของการบรรจุข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทินกล่าวว่า ได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม ในเรื่องการบรรจุพนักงานราชการของกระทรวงฯ เป็นข้าราชการกระทรวง อยู่หลายครั้ง ซึ่งรองนายกฯ วิษณุ รับไปพิจารณาต่อไป ซึ่งส่วนตัวมองว่า ไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ แต่เป็นเรื่องกระบวนการทางรการมากกว่า
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายยกระดับ อสม. ว่า เรามี อสม.กว่าล้านคนกระจายทำงานอยู่ทั่วประเทศ ถ้าเปลี่ยน อสม.เป็นหมอครอบครัว ดูแลคนป่วยชั้นปฐมภูมิในพื้นที่ได้ จะสามารถลดภาระแพทย์ พยาบาล และช่วยลดภาระการเดินทางของผู้ป่วย โดยเราได้ยกระดับสถานีอนามัยเป็น รพ.สต.แล้ว จึงมีความมุ่มมั่นให้สถานพยาบาลข้างต้น ช่วยคัดกรองผู้ป่วยก่อนถึงโรงพยาบาลศูนย์
ที่สำคัญได้ให้นโยบายกับกระทรวงสาธารณสุขแล้วในส่วนของการเร่งสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพสำหรับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องทราบว่า
1. ยาดีแค่ไหน ก็สู้ไม่กินยาไม่ได้
2. เตียงโรงพยาบาลนุ่มแค่ไหน ก็สู้เตียงไม้กระดานไม่ได้
3.ขยันแล้วท่านจะแข็งแรง ส่วนขี้เกียจ มักจะจบลงที่หาหมอ และควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ