POLITICS

รมว.เกษตรฯ แจง ก.ย.ท. ทำตามขั้นตอน กรณีมีผู้ร้องเรียนฮั้วโครงการถนนยางพาราพันล้าน

นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวถึง กรณีที่มีผู้ประกอบการยางพาราเข้าร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล (สายด่วน 1111) โดยกล่าวหาว่า พบข้อพิรุธและสงสัยในข้อมูลที่ประกาศรายชื่อทางเวปไซต์ของการยางแห่งประเทศไทย (ก.ย.ท.) ซึ่งปรากฏชื่อ บริษัทเอกชน 3 ราย โดยแจ้งว่า เป็นบริษัทที่มีน้ำยางพาราผสมสารเพิ่มถูกต้องตามหลักเกณฑ์ หากเกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายใดประสงค์จะเข้าประกวดราคาทำถนนผสมยางพาราในหน่วยงานของรัฐ จะต้องซื้อน้ำยางพาราผสมสารเพิ่มจาก 3 บริษัทนี้เท่านั้น ซึ่งกลุ่มผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่า เป็นการซื้อน้ำยางพาราผสมสารเพิ่มในราคาสูงมากและผูกขาด ว่า 
“สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจประการแรกคือ ก.ย.ท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรฯ มีภารกิจ คือ ดูแลเกษตรกรชาวสวนยางในการปลูก การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การหาช่องทางให้เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตยางพารา ตลอดจนส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต ดังนั้น การยางแห่งประเทศไทย จึงไม่ใช่หน่วยงานที่มีอำนาจอนุมัติให้มีการจัดซื้อหรือจัดจ้างเอกชนในการทำถนนหรือก่อสร้างถนนแต่อย่างใด อีกทั้ง การตรวจรับรองคุณภาพน้ำยางผสมสารเพิ่มและสารผสมเพิ่มของบริษัทเอกชนที่มายื่นขอตรวจรับรองกระทำโดยคณะกรรมการฯ จากหลายภาคส่วน ไม่ได้เอื้อให้มีการฮั้วประมูล” นายกฤษฏา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า หลังจากภาวะราคายางพาราตกต่ำเมื่อปี 2560-2561 และรัฐบาลได้มีนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ โดยได้กำหนดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรหลายประการ และหนึ่งแนวทางสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง คือ โครงการใช้ยางพาราในภาครัฐ เพื่อยกระดับราคายางพารา อย่างไรก็ตามเนื่องจากยังไม่มีราคากลาง กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลาง จึงได้ออกประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 4 เกี่ยวกับการก่อสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ และกระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงชนบท ได้ออกแบบมาตรฐานสำหรับการก่อสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ กระทรวงคมนาคม จึงได้ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศประกาศ เรื่อง ข้อแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติสำหรับงานท้องถิ่น เมื่อ วันที่ 11 ธันวาคม 2561 เพื่อเป็นแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้ในการจัดซื้อ จัดจ้างการทำถนนพาราซอยซีเมนต์ตามโครงการฯ

การยางแห่งประเทศไทย ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการฯ ในวันที่ 11 มกราคม 2562 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมบัญชีกลาง สตง. ปปช. กระทรวงคมนาคม ให้ข้อคิดเห็นต่อโครงการฯ และได้ข้อสรุปว่าควรมีการรับรองคุณภาพมาตรฐานวัสดุที่ใช้ในการทำถนนพาราซอยซีเมนต์ ซึ่งได้แก่ น้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม เนื่องจากเป็นวัสดุชนิดใหม่และมีผลโดยตรงต่อมาตรฐานหรือข้อกำหนดของถนนชนิดนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ 347/2562 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณารับรองมาตรฐานวัสดุน้ำยางพาราผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ ได้แก่ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์บริการ ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนกองทัพบก และผู้แทนการยางแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ มีอำนาจหน้าที่พิจารณารับรองมาตรฐานคุณภาพ ตรวจสอบคุณภาพ และการควบคุมคุณภาพน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม สำหรับงานก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ฯ พร้อมทั้งได้ประกาศคู่มือการรับรองคุณภาพของน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม ซึ่งในคู่มือดังกล่าวประกอบด้วยขั้นตอนและหลักเกณฑ์ในการขอรับรองคุณภาพของน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่ม โดยมีขั้นตอนในการขอรับรองมาตรฐานฯ มีดังนี้

– ผู้ประกอบการยื่นขอการรับรองพร้อมหลักฐานตามคู่มือฯกำหนด พร้อมนัดวันที่ให้คณะกรรมการ(ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงและการยางฯ) เข้าตรวจและเก็บตัวอย่างทดสอบ 
– เจ้าหน้าที่ตรวจกระบวนการผลิตและนำตัวอย่างส่งวิเคราะห์ผลสมบัติทางยางและสมบัติทางวิศวกรรม ตามเกณฑ์กำหนดในคู่มือฯโดยการยางแห่งประเทศไทยรับผิดชอบในการทดสอบสมบัติทางยางและกรมทางหลวงรับผิดชอบในการทดสอบสมบัติทางวิศวกรรม 
– นำเสนอผลให้คณะกรรมการรับรองฯ เป็นผู้พิจารณาเพื่อรับรองมาตรฐานวัสดุน้ำยางพาราผสม สารผสมเพิ่มและสารผสมเพิ่มนั้น

ในช่วงแรกหลังจากประกาศ มีผู้มายื่นขอการรับรอง 6 รายและนัดให้เข้าตรวจและเก็บตัวอย่าง 5 ราย ซึ่งจากผลการทดสอบ ปรากฏว่า มีผู้ผ่านการรับรองจำนวน 3 ราย ไม่ผ่านการรับรอง 2 ราย ซึ่งคณะกรรมการได้แจ้งผลให้ผู้ประกอบการที่ไม่ผ่านการรับรองทราบและให้ปรับปรุงน้ำยางผสมสารผสมเพิ่มเพื่อทดสอบใหม่ โดยผู้ประกอบการรายใด เห็นว่า การดำเนินการในขั้นตอนใดไม่ถูกต้องก็สามารถยื่นอุทธรณ์มาที่คณะกรรมการเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ ซึ่งถ้าเห็นว่าว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถนำคำร้องไปฟ้องศาลปกครองได้ต่อไป ปัจจุบันมีผู้ประกอบการมายื่นขอการรับรองเพิ่มเติมอีก 4 ราย โดยมี 2 รายที่ได้เข้าตรวจกระบวนการผลิตและเก็บตัวอย่างมาส่งทดสอบแล้วอยู่ระหว่างรอผลทดสอบ ส่วนอีก 2 รายนัดเข้าตรวจและเก็บตัวอย่างในวันที่ 20 และ 30 มิ.ย. นี้

การยางแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอยืนยันว่า การดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น นั้น เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้และมีส่วนราชการหน่วยต่างๆมาร่วมดำเนินการในรูปคณะกรรมการ หากผู้ประกอบการรายใดหรือประชาชนเห็นว่า การดำเนินการในขั้นตอนใดมีการกระทำที่ทุจริตหรือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็สามารถแจ้งมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตรงได้ หรือจะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายในกระบวนการยุติธรรมอีกทางหนึ่งก็สามารถดำเนินการได้

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Send this to a friend