โดยเฉพาะตนเองช่วงที่ผ่านมา แม้จะเป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ก็ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะในเขตชุมชนแออัดใน กทม.อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่เราเห็นคือความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้นความสนใจของเราจึงมุ่งโฟกัสไปที่การแก้ปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าจะไปให้ความสำคัญกับประเด็นในทำนองเดียวกับกระแสข่าวที่ออกมา
สำหรับข่าวที่ปรากฎออกมานั้น น.ส.วทันยาบอกว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะทราบดีว่าในช่วงที่ผ่านมาเรื่องข่าวของพรรคพลังประชารัฐมักจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย เพราะในแง่ของการเมืองคนให้ความสนใจ แต่สิ่งสำคัญ ณ จุดนี้ ถ้าคนที่เป็นสมาชิกพรรค เป็น ส.ส. โดยเฉพาะคนที่ทำงานในฝ่ายบริหารอย่างรัฐบาลจะรู้ว่าวันนี้เรามุ่งในการทำงาน เพราะปัญหาที่รุมเร้าในปัจจุบันมากพออยู่แล้ว โดยเฉพาะวันนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ความท้าทาย ในเรื่องการฟื้นฟูวิกฤติจากโควิด-19 เพราะฉะนั้นเราจึงตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองมากกว่าที่จะนั่งคิดถึงเรื่องในทำนองนี้ และที่ผ่านมาตนเองมาจากการเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง จึงทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้คิดเรื่องซับซ้อน มุ่งเน้นผลงานมาโดยตลอด จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงกรณีปรากฎชื่อของนายวัฒน์ชัยร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วยว่า ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีการพูดคุยกับนายวัฒน์ชัยเป็นการส่วนตัว รู้จักชื่อเสียงในแง่ของนักธุรกิจตามสื่อต่างๆ เพียงเท่านั้น ทั้งนี้หากนายสมคิดชวนไปอยู่ด้วยจะไปหรือไม่นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายสมคิดจะตั้งพรรคจริงหรือไม่ และโดยห้วงสถานการณ์ในเวลานี้ยังไม่มีเหตุผลที่จะไปพูดถึงตรงนั้น วันนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีความเข้มแข็ง มีบุคลากรที่มีความสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลซึ่งนี่ถือเป็นภาระกิจหลัก และตนเองก็ยังเชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ