POLITICS

ผบ.ทบ.ยืนยันไม่มีแนวความคิดต่ออายุราชการหลังเกษียณ ชี้ไร้สาระ-ไม่สร้างสรรค์ ระบุหลังเกษียณจะ Set Zero ตัวเอง

พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงกระแสข่าวจะต่ออายุราชการหลังเกษียณ 30 กันยายน 2563 ว่า ขอย้ำจากใจตนเองในฐานะทหารอาชีพและตามแนวทางการรับราชการที่ถูกกำหนดไว้ชัดเจนว่า ทหารทุกคน ต้องเกษียณอายุราชการ แต่ก็มีบางกรณีที่ไปคุ้ยถึงเรื่องทหารบางคนที่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ขออย่าสร้างกระแสเพราะโดยส่วนตัวยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎระเบียบของกระทรวงกลาโหม ในการเกษียณอายุราชการ

ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่าในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยถึงกระแสการต่ออายุราชการ ซึ่งไม่ใช่ข่าวในเชิงที่สร้างสรรค์ และทำให้เกิดความขัดแย้ง และมองว่าไม่มีสาระและไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น โดยย้ำว่า 30 กันยายนนี้ จะส่งธงแล้วและหมดภาระหน้าที่ถือว่าจบภารกิจในการเป็นผู้บัญชาการทหารบก

พร้อมย้ำว่า อยากให้บุคคลที่สร้างกระแสต่างๆ นำความจริงมาพูดกัน โดยเฉพาะการใช้สื่อสังคมออนไลน์โจมตีกัน และยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลเรื่องใดเพราะจากที่รับราชการมาได้ทำทุกเรื่องที่คิดว่าดีที่สุดต่อกองทัพ และต่อประเทศชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทิดทูนสถาบัน

ซึ่งหลังจากนี้ผู้ที่จะมารับหน้าที่ต่อก็ต้อสืบสานต่อกันไปไม่ว่าจะเป็นเหล่าทัพใดก็ตาม และในช่วงเดือนสิงหาคมนี้จะแถลงผลงานของกองทัพบกในหลายเรื่องเพราะที่ผ่านมาก็ยังมีผู้ที่มาโจมตี เช่น เรื่องศูนย์ร้องทุกข์ ทั้งนี้จะสรุปผลงานต่างๆ ด้วยตนเองเพราะกองทัพบกเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ไม่จำเป็นต้องมานั่งรายงานทุกเรื่อง ซึ่งกองทัพบกเป็นหน่วยงานที่มีระเบียบวินัยถือว่าคำพูดเป็นนายเมื่อพูดไปแล้วก็ต้องทำ และกำลังพลเมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องปฏิบัติ หากกระทำผิดก็ต้องถูกลงโทษทางวินัย และยืนยันว่าการแก้ปัญหาของกองทัพบกคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะประเด็นโจมตีทาง Social Media

ผู้บัญชาการทหารบกระบุถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเดือนตุลาคม 2563 ว่า อยู่ที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในการกำหนดวันเวลาส่งบัญชีรายชื่อของแต่ละเหล่าทัพ และในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว โดยเชื่อว่า ทุกเหล่าทัพได้มีการมองถึงบุคคลที่มีความเหมาะสมแล้ว เพื่อมาทำงานต่อในทุกตำแหน่งไม่ใช่เฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพเท่านั้นซึ่งเป็นแนวทางที่ชัดเจน ทั้งนี้ตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นเรื่องที่แต่ละเหล่าทัพจะเสนอขึ้นมาและผ่านไปสู่ขั้นตอนการพิจารณาของกองบัญชาการกองทัพไทยและกระทรวงกลาโหมซึ่งมีอีกหลายขั้นตอน

ส่วนกรณีที่ถูกจับตามองหลังเกษียณอายุราชการนั้นก็เป็นเรื่องที่ แต่ละบุคคลจะจับจ้องกันไป และไม่ได้คิดจะทำอะไร สำหรับกรณี ส.ส. พรรคฝ่ายค้านยังตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณของกองทัพนั้น ขอยืนยันว่ากองทัพได้มีการปรับลดงบประมาณไปแล้ว แต่บางอย่างเป็นงบผูกพัน พร้อยอมรับว่าในบางครั้งคนที่ไม่เข้าใจจะชี้แจงอย่างไรก็ไม่เข้าใจ และยืนยันโดยส่วนตัวไม่ยุ่งกับการเมือง แต่ก็มีหน้าที่ชี้แจงต่อประเด็นปัญหา ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีหน้าที่ของตนเอง ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะต้องมาคานอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านแต่ขออย่ามีฝ่ายแค้น

ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคตผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่จะต้องรับมือ ว่า คงไม่สามารถไปตอบแทนได้ ต้องไปรอวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพราะว่ายังไม่เห็นถึงความวุ่นวาย และมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส โดยมีความเด็ดขาดซึ่งเห็นได้จากการแก้ปัญหาสถานการณ์ covid-19 ซึ่งทั่วโลกชื่นชมทีมแพทย์ และความมีวินัยของคนไทย ที่แตกต่างจากประเทศอื่น

ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดการณ์อนาคตข้างหน้าได้ ต้องประเมินสถานการณ์แบบรายวัน รายเดือน พร้อมย้ำว่าเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจหมดบทบาทก็จะ Set Zero ตัวเอง

Related Posts

Send this to a friend