LIFESTYLE

“หวานน้อยแต่หวานนะ” ฉลองเดือนแห่งความรักด้วยเมนูสุขภาพดี

ความหวาน กับวาเลนไทน์เป็นของคู่กัน แต่หวานแค่ไหนถึงจะพอดี กุหลาบ ตุ๊กตา ก็หวานดี แต่ถ้าเป็นอาหารหวานไปไม่ดีแน่ เอาแค่ หวานน้อย แต่หวานนะ ก็น่าจะดีกว่า เพราะคงไม่มีใครอยากสุขภาพพังเพราะอาหาร แววตา เอกชาวนา นักกำหนดอาหารวิชาชีพอิสระ และที่ปรึกษาโครงการกินผักผลไม้ดีวันละ 400 กรัม จาก สสส. เผย เทคนิค และทริคปรุงอาหารจากหัวใจให้คนที่รักแบบไม่ทำลายสุขภาพ กับ The Reporters ว่า

ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับวันวาเลนไทน์อาจจะไม่ใช่ดอกไม้ หรือของหวานอย่างช็อกโกแลตเสมอไป พี่แววแนะนำว่า เราสามารถให้ของที่กินได้ทุกวัน หรือใช้ได้ในชีวิตประจำวัน แต่เติมกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ลงไปให้เหมาะกับวันแห่งความรักได้

“นมพร่องมันเนย แต่รักเราไม่พร่องเลย” “นมสูตรหวานน้อย แต่รักเธอไม่น้อย” “น้ำมันพืชสูตรดีต่อสุขภาพหัวใจ เพราะเธอดีต่อใจ” ก็นับเป็นไอเดียของขวัญวาเลนไทน์ที่ไม่ซ้ำใคร และไม่ทำให้สุขภาพเสีย

พร้อมกันนี้ แววตายังแนะนำว่า อาจจะทำอาหารให้คนที่รัก ด้วยวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ หุงข้าวจากข้าวซ้อมมือ ใช้น้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ อย่างน้ำมันมะกอก น้ำมันงา ปรุงกับผักออแกนิค หรือทำสลัด สร้างสรรค์เมนูจากความรักให้กับคนที่เรารักให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ

สาวๆคนไหนที่ทำอาหารไม่เป็น สามารถต้มน้ำสมุนไพรอย่างง่ายๆ ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้กับคนรักได้เช่นกัน เช่น น้ำตะไคร้, น้ำขิง, น้ำใบเตย, น้ำเก๊กฮวย ที่ใส่น้ำตาลน้อย เนื่องจากสมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ทำให้มีสุขภาพดีรับวันวาเลนไทน์ และเดือนแห่งความรักได้อย่างง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม แววตา ย้ำว่า น้ำตาลถือได้ว่าเป็นสาเหตุของการอักเสบในร่างกาย การบริโภคน้ำตาลสูงจะทำให้ร่างกายป่วยได้ การบริโภคความหวานแต่พอดีจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง หากต้องการเติมความหวานให้กัน อาจเปลี่ยนจากช็อกโกแลตไปเป็นผลไม้แห้งอย่างกล้วยตาก อินทผาลัม หรือลูกเกดแทน จะได้ความหวานที่อยู่ในระดับที่พอดีกว่า ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และการรับประทานผัก ไม่ว่าจะเป็นผักสด หรือผักอบกรอบ รวมถึงโปรตีนจากถั่วชนิดต่างๆ หรือมะม่วงหิมพานต์ ก็เป็นทางเลือกที่ดี โดยเราสามารถเติมความหวานได้จากความใส่ใจ หรือการเขียนการ์ดแปะไว้น่ารักๆ เพื่อให้ดีต่อใจคนรับได้อีกด้วย

“การมอบอาหารในวันวาเลนไทน์ ก็เหมือนการสื่อสาร ให้คนที่เรารักรู้ถึงความห่วงใย ผ่านอาหารหรือเมนูอาหารที่เรามอบให้ ซึ่งบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ทำอาหารทุกวัน แต่คนรักจะคิดถึงเราทุกวัน หากว่าเราเติมสีสันให้กับเมนูอาหารที่มีความครีเอท เช่น การ์ดแห่งความห่วงใย ซึ่งเป็นการบอกความรัก ผ่านไปให้คนที่รักหรือคนในครอบครัว เพื่อให้รู้ว่าเราหวังดีและเป็นห่วงคนเหล่านั้นแค่ไหน เพราะอันที่จริงแล้วถ้าเรารักใครก็จำเป็นต้องบอกออกไป ดังนั้นการเขียนการ์ดด้วยมือของเรา ก็จะทำให้อาหารมีความพิเศษ และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนแห่งความรักนี้” แววตา กล่าว

Related Posts

Send this to a friend