INVESTMENT

เซ็นทรัลพัฒนา เผย ธุรกิจโตทะลุเป้า รายได้รวม 37,155 ล้านบาท

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา ล่าสุดประกาศความสำเร็จ รายได้ประจำปี 2565 โตทะลุเป้า รายได้รวม 37,155 ล้านบาท ธุรกิจโต 28% และมีกำไรอยู่ที่ 10,760 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจโต 51% พร้อมกันนี้เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ อย่าง Retail-Led Mixed-Use Development ที่ประกอบด้วย ศูนย์การค้า,ที่อยู่อาศัย ,อาคารสำนักงาน และโรงแรม และเดือนมีนาคมปี 2566 เตรียมเปิดโครงการใหม่ ได้แก่ ‘Marché Thonglor’ คอมมูนิตี้มอลล์ที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ และห้างสรรพสินค้า ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ ย่านราชพฤกษ์ หรือโซนกรุงเทพฯตะวันตก และในไตรมาส 4 ปี 2566 ยังมีโครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ได้แก่ ‘เซ็นทรัล นครสวรรค์’ และ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ ที่จะเปิดให้บริการประมาณ ไตรมาส 1-2 ปี 2567

นางสาวนภารัตน์ กล่าวว่า “ผลประกอบการประจำปี 2565 ของบริษัทฯ ฟื้นตัวดีต่อเนื่องกลับมาสู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ด้วยปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงปลายปีที่กลับมาคึกคัก และตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือ และกระตุ้นการจับจ่ายของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเซ็นทรัลพัฒนา ก็ได้จัดแคมเปญส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ สร้างปรากฏการณ์ระดับโลก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เพื่อดึงดูดทราฟฟิก ส่งเสริมยอดขายให้กับผู้เช่าและพันธมิตร และเป็นการคืนกำไร มอบความสุขให้ลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว อาทิ แคมเปญ Embracing Happiness 2023 ที่จับมือกับพันธมิตรระดับโลก LINE FRIENDS และงาน Bangkok & Thailand CountdOwn 2023 เอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ระดับโลกที่ดีที่สุด จนได้รับการขนานนามเปรียบเป็น Time Square of Asia”

“ซึ่งทั้ง 2 งานได้รับกระแสตอบรับดีอย่างล้นหลาม อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถ ในการทำกำไรสูงสุดอีกด้วย ที่สำคัญ บริษัทฯได้เดินหน้าขยายธุรกิจ ในรูปแบบ “Retail-Led Mixed-Use Development” ได้สำเร็จตามแผน โดยในไตรมาส 4 ปี 2565 ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ได้แก่ โรงแรม GO! Hotel บ่อวิน ชลบุรี Premium Budget Hotel ด้วยมาตรฐานความสะดวกสบายครบครัน และบริการที่ได้มาตรฐานในราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง โลเคชั่นอยู่ติดกับโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ รวมทั้งเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัย 5 โครงการ ได้แก่ คอนโดแนวสูง ESCENT VILLE ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี และ ESCENT ตรัง และโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ คือ NIRATI เชียงใหม่ และ NINYA ราชพฤกษ์ อีกทั้งเปิดให้บริการ ‘at work’ ที่อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ออฟฟิศ ซึ่งเป็นพื้นที่ flex space for work and lifestyle purposes ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ hybrid work ยุคใหม่ด้วย facilities ที่อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานครบครัน พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดงานอีเว้นต์ทุกรูปแบบ อาทิ งานสัมมนา Workshop Townhall Art Exhibitions และงานแถลงข่าว เป็นต้น”

สำหรับโครงการใหม่ เตรียมเปิดในปีนี้ ได้แก่ ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท ในคอนเซ็ปต์ “The Evolution of Semi-Outdoor Retail Model” ต่อยอดความสำเร็จของโครงการรูปแบบ Semi-Outdoor ที่ผสมผสานพื้นที่สีเขียว เข้ากับศูนย์การค้า เพิ่ม Green Park แห่งใหม่ให้เมือง เตรียมพลิกโฉมย่านราชพฤกษ์ ปั้นสู่ย่าน Upper-Class Lifestyle ของกรุงเทพฯ ตะวันตก เจาะทาร์เก็ตกำลังซื้อสูงกลุ่ม Affluent & Quality Lifestyle เตรียมเปิดในไตรมาส 4 2566 นี้ และคอมมูนิตี้มอลล์ ‘Marché Thonglor’ (Market Place Thonglor เดิม) ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 66 นี้ นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 โครงการมิกซ์ยูสโมเดลใหม่ ‘เซ็นทรัล นครสวรรค์’ และ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท ที่จะเปิดให้บริการประมาณ ไตรมาส 1-2 ปี 2567 โดยตั้งเป้าให้ทั้ง 2 โครงการ ปั้นเมืองศักยภาพแห่งใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน พร้อมทั้งพาคู่ค้าเติบโตขยายสาขาไปทั่วประเทศ ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการศึกษา การให้เช่าสินทรัพย์เพิ่มเติมแก่กองทรัสต์ CPNREIT ซึ่งบริษัทฯ วางแผนที่จะดำเนินการ ในครึ่งหลังของปี 2566 โดยรายละเอียดจะมีการแจ้งเพิ่มเติม ในลำดับถัดไป

สำหรับทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2565-2569) บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ทั้งที่ประกาศไปแล้ว และยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ แบบผสม (Retail-Led Mixed-use Development) โครงการโรงแรมและที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งยังคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผน การเติบโตตามเป้าหมาย ในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Related Posts

Send this to a friend