ญาติยังไม่ได้ติดต่อ 260 คนไทยเหยื่อเล้าก์ก่ายเลย แม้ถึงไทยกว่า 3 วันแล้ว
ญาติยังไม่ได้ติดต่อ 260 คนไทยเหยื่อเล้าก์ก่ายเลย แม้ถึงไทยกว่า 3 วันแล้ว ยังไร้เจ้าภาพทำ NRM เงียบกริบไม่แถลงต่อสื่อ ’พ่อเหยื่อ’ ยันสิทธิการติดต่อญาติของผู้บริสุทธิ์ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
วันนี้ (22 พ.ย. 66) พ่อของหนึ่งในคนไทย ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา มาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 66 เปิดเผยกับ The Reporters หลังจากลูกเดินทางมาถึงประเทศไทยกว่า 3 วันแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อหรือได้เยี่ยม รวมถึงรับทราบข้อมูลความเป็นไป เลยทำให้รู้สึกร้อนใจ
พ่อไก่ นามสมมติ ระบุว่า ตอนที่ลูกชายอยู่ที่โน่น ก็ถูกทำร้าย ถูกกีดกันไม่ให้ได้ติดต่อกับญาติ นาน 5-6 เดือน ไม่ได้ยินเสียงลูกเลย มีปืนจี้บ้าง ไฟฟ้าช็อตบ้าง ไม่สามารถคุยโทรศัพท์ได้ แม้กระทั่งพิมพ์ออนไลน์ เขาก็จะมีการตรวจหน้าจอ ห้ามคุยเรื่องส่วนตัว ก็ไม่ได้คุยเลย นอกจากว่าต้องสื่อสารผ่านเพื่อนของเขาให้เขามาบอกเราอีกที ตอนเรารู้ว่าลูกเราติดอยู่ในไฟสงครามเมียนมา สถานการณ์เป็นตายร้ายดีเท่ากันลูกเราเป็นเหมือนตัวประกัน แต่พอได้รับการช่วยเหลือไปถึงชายแดน เราก็รู้สึกโล่งแล้วว่าลูกได้กลับมาประเทศไทย ทันทีที่กลับมาถึงแผ่นดินไทย เราก็ตามตั้งแต่กลางดึกคืนนั้น คิดว่าพรุ่งนี้ก็จะได้เจอลูกชาย
แต่เมื่อเดินทางไปที่ศูนย์การเรียนรู้มหานคร เขตหนองจอก กทม. เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา พ่อไก่ กลับไม่ได้เข้าเยี่ยมลูกชาย มีแต่เพียงรายชื่อออกมาดูแล้วขอให้ผู้ปกครองทิ้งเบอร์โทรไว้ บอกว่าเดี๋ยวจะโทรกลับ แต่พอมาถึงวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 3 คิดว่าจะได้คุยกับลูกก็ยังไม่ได้คุย และไม่มีใครโทรกลับมาทั้งนั้น
“มาถึงวันนี้เป็นวันที่สาม ผมน่าจะได้คุยกับลูกผม หรือว่าอย่างน้อยขอให้ได้ยินเสียง ได้อะไรกัน ถ้าจะไม่อยากให้คุยเรื่องอย่างอื่น อยากให้คุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบอย่างเดียว ก็เป็นไปได้ แต่ขอให้ได้ยินเสียง ได้ถาม แต่ตอนนี้ไม่มีเลย มีแต่ความว่างเปล่า”
พ่อไก่ บอกว่า คนติดตามว่าจะได้เยี่ยม ได้คุยกับลูกหรือไม่ผ่านเจ้าหน้าที่มูลนิธิอิมมานูเอลตลอด ทักไปถามทุกๆ 6 ชั่วโมง รู้สึกคับข้องใจว่าผ่านมา 3 วันแล้ว อยู่ในประเทศที่เป็นของเรา เราเป็นผู้บริสุทธิ์ ตกไปเป็นเหยื่อ แค่ขอได้ยินเสียงลูกเราทำไมถึงทำไม่ได้ ปฏิบัติกับเราเหมือนนักโทษหรือเชลยในค่ายกักกัน
พ่อไก่ ยังกล่าวถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นกรณีใหม่ ไม่เคยเกิดกระบวนการ NRM จำนวนมากขนาดนี้ในประเทศไทย มันไม่ใช่เหตุผล เพราะอย่างน้อยสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ให้ญาติได้คุยได้ติดต่อ นึกถึงสภาพจิตใจคนที่อยู่ตรงนั้นมา 5-6 เดือน เขาไม่มีน้ำทิพไปชโลมใจเลย ระหว่างพ่อกับลูก
“ผมคิดถึงเขามาก อยากคุย อยากได้ยินเสียง ทำไมมาในแผ่นดินของเราเองแท้ๆ เรื่องแค่นี้ทำไมเขาไม่รีบจัดการ เอาแต่เรื่องหน้าที่การงาน ซึ่งเป็นเรื่องดูใหญ่โตเลย และเท่าที่ฟังก็มีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานอื่นๆก็ยังสะลึมสะลืออยู่ว่าจะเริ่มตรงไหนก่อน ในความรู้สึกเบื้องต้นพวกเราน่าจะได้คุยกัน” พ่อไก่ นามสมมติ กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าในขณะนี้ยังมีปัญหาในกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism : NRM) ที่ประเทศไทยนำมาใช้เป็นครั้งแรกในการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ ยังไม่สามารถหาหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพได้ ผ่านมา 3 วัน ยังไม่มีใครชี้แจงกระบวนการทั้งหมดต่อสาธารณะ ทั้งที่เป็นกรณีที่มีจำนวนเหยื่อที่ได้รับการช่วยเหลือมากที่สุดครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้สื่อข่าว The Reporters ได้ติดต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติและอีกหลายหน่วยงานแล้ว ก็ยังไม่ได้รับการชี้แจงเรื่องทั้งหมด
