HEALTH

กรมอนามัย แนะ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ช่วยแม่-ลูกแข็งแรง

วันนี้ (16 ก.พ. 66) นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ออกคำแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรออกกำลังกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง ต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆในขณะตั้งครรภ์ เช่น เบาหวานจากการตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ การคลอดก่อนกำหนด และช่วยป้องกันความเสี่ยงสำหรับทารกในครรภ์ อีกทั้งช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้สามารถออกกำลังกายได้เป็นประจำ เหมือนการออกกำลังกายทั่วไป เพื่อประโยชน์ของคุณแม่และลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์

นายแพทย์มณเฑียร กล่าวว่า “คุณแม่ตั้งครรภ์จะพบกับการเปลี่ยนแปลง ทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะมีได้ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงรุนแรง และแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในระยะตั้งครรภ์ จะช่วยส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์มีสุขภาพดี ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยที่ยืนยันได้ว่า การออกกำลังกาย ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนทางอายุรกรรม หรือภาวะอื่นๆจากการตั้งครรภ์ เช่น เบาหวานจากการตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ การคลอดก่อนกำหนด”

โดยการออกกำลังกายเป็นการ ช่วยเตรียมความพร้อมของร่างกาย เพื่อเข้าสู่การคลอด ทำให้คลอดง่ายขึ้น ส่งผลให้ความเจ็บปวดระหว่างคลอดลดลง การฟื้นตัวหลังคลอดดีกว่า ปวดแผลน้อยกว่า ปวดเข่าและปวดขา น้อยกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่ออกกำลังกาย อีกทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น จะช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง สู่ระดับปกติได้อย่างรวดเร็ว สำหรับด้านจิตใจ พบว่าการออกกำลังกายช่วยลดภาวะซึมเศร้า ในสัปดาห์แรกหลังคลอด ทำให้คุณแม่รู้สึกมีคุณค่าในตนเอง และมีความพึงพอใจในภาพลักษณ์ของตนเองสูงขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อลูกน้อย โดยพบว่าความยาวของลำตัว และน้ำหนักทารกแรกเกิด จะมากกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่ได้ออกกำลังกายอีกด้วย

“ปัจจุบันไม่มีข้อห้ามการออกกำลังกายในหญิงตั้งครรภ์ โดยสามารถออกกำลังกาย ได้ตลอดการตั้งครรภ์ ผู้ที่เริ่มต้นหรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ควรเริ่มที่ระดับเบา ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความเหมาะสมและสุขภาพร่างกายเป็นหลัก โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ได้แก่ การเดิน การออกกำลังกายในน้ำ (Hydrotherapy) โยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เช่น ยกเวทหรือดัมเบลเบาๆ อีกทั้งควรออกกำลังกาย เพื่อเสริมความแข็งแรงของอุ้งเชิงกราน และกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการปัสสาวะเล็ด ทั้งนี้ก่อนเริ่มออกกำลังกาย ควรได้รับคำแนะนำหรือปรึกษาจากแพทย์และผู้ดูแลก่อน”

Related Posts

Send this to a friend