HEALTH

กรมอนามัย เตือนคนไทยเตรียมรับมือฝุ่นจิ๋ว หมั่นเช็กค่าฝุ่น-สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นให้ถูกวิธี

วันนี้ (14 ธ.ค. 65) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดออกคำแนะนำให้ประชาชน หมั่นเช็กค่าฝุ่น PM2.5 เป็นประจำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเมื่อค่าฝุ่นสูงขึ้น รวมถึงเลือกและสวมหน้ากาก ป้องกันฝุ่นให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อลดการสูดฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย

นายแพทย์อรรถพล กล่าวว่า “สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน มักเกิดขึ้นช่วงปลายปีและต้นปี เนื่องจากสภาพอากาศที่มีความกดอากาศสูง จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย จึงทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นละออง และจากคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นละอองปี 2566 ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าสถานการณ์ฝุ่นละออง อาจมีแนวโน้มสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

กลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมาก คือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด เป็นต้น เนื่องจากมีความอ่อนไหวมากกว่าประชาชนทั่วไป กรมอนามัยจึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอยู่เสมอ ด้วยการเช็กค่าฝุ่น PM2.5 จากแอพพลิเคชัน Air4Thai หรือเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th ของกรมควบคุมมลพิษ และเฝ้าระวังตนเองด้วยการประเมินอาการจากการรับสัมผัสฝุ่นละออง ที่เว็บไซต์ https://4health.anamai.moph.go.th เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ กับสถานการณ์ฝุ่นละออง และสามารถป้องกันตนเอง รวมถึงให้คำแนะนำกับคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง

การปฏิบัติตนที่แนะนำสำหรับแต่ละระดับสีค่าฝุ่น PM2.5 ได้แก่

1.สีฟ้า ระดับดีมาก (0-25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ประชาชนทุกคนสามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้ตามปกติ

2.สีเขียว ระดับดี (26-37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้ตามปกติ สำหรับกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยง การทำกิจกรรมนอกบ้าน และเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง

3.สีเหลือง ระดับปานกลาง (38-50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน และเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง สำหรับกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และผู้มีโรคประจำตัวควรเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

4.สีส้ม ระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (51-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ประชาชนทั่วไปควรลด หรือจำกัดการทำกิจกรรมนอกบ้าน กลุ่มเสี่ยงควรลดเวลาการทำกิจกรรมนอกบ้าน ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และสังเกตตนเองหากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ และผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยา และอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม

5.สีแดง ระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป) ควรลดหรืองดการทำกิจกรรมนอกบ้าน เปลี่ยนมาออกกำลังกายในบ้าน ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และสังเกตตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ สำหรับกลุ่มเสี่ยงให้งดออกนอกบ้าน ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้ง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ และผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยา และอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน

ทั้งนี้การป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงการสูดฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกาย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยมีวิธีการเลือกดังนี้

1.หน้ากาก N95 ต้องเลือกที่มีขนาดเหมาะ แนบกระชับกับใบหน้า ครอบจมูกและใต้คางได้อย่างมิดชิด

2.หน้ากากอนามัย ต้องผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ อย่างน้อย 3 ชั้น โดยมีแผ่นกรองอยู่ชั้นกลาง

3.หน้ากากผ้า ต้องตัดเย็บจากผ้าที่ซ้อนกันอย่างน้อย 2 ชั้น หรือมีความหนาไม่น้อยกว่า 0.5 มิลลิเมตร และมีขนาดเหมาะกับใบหน้า ทั้งนี้ต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นให้ถูกวิธี และควรเปลี่ยนเมื่อใส่แล้ว และหากรู้สึกไม่กระชับใบหน้า หายใจลำบากมากขึ้น ฉีกขาด เปื้อน หรือเปียกน้ำ

Related Posts

Send this to a friend