กรมอนามัย แนะวันวาเลนไทน์ มอบผลไม้สีแดง

แทนขนมหวาน เติมความหวาน แบบไม่เพิ่มน้ำตาล
วันนี้ (14 ก.พ. 66) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เผยวันวาเลนไทน์ปีนี้แนะคู่รักมอบผลไม้สีแดงเป็นสื่อรักแทนใจ เพื่อเติมความหวานให้แก่กัน เนื่องจากมีประโยชน์ และได้สุขภาพที่ดี เพราะในผลไม้สีแดง มีสารสารพฤกษเคมีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ แทนการมอบขนมหวาน ทั้งนี้เพื่อช่วยลดการเพิ่มน้ำตาลในร่างกาย และช่วยลดอ้วนไปด้วย พร้อมกันนี้ชวนคู่รักออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน วันละประมาณ 30 นาที
นายแพทย์สุวรรณชัย เปิดเผยว่า “เนื่องในวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) คู่รักทั่วไปนิยมมอบของขวัญแทนใจ เพื่อแสดงความรักให้แก่กัน นอกจากดอกกุหลาบสีแดงแล้ว ก็จะนิยมมอบขนมหวาน เช่น ช็อกโกแลต คุกกี้ ลูกกวาด เป็นต้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความรัก ความสุข ความหวาน ให้แก่คู่รัก เนื่องจากขนมหวานดังกล่าว เป็นอาหารที่ให้พลังงานได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่มีสารอาหารที่ให้ประโยชน์น้อย (Empty Calories) หากกินโดยไม่มีการควบคุมบ่อยๆเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ระบบภูมิคุ้มกันเสียสมดุล ทำให้ติดเชื้อง่าย และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนในระยะยาวได้
“ขนมหวานดังกล่าวเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง และพลังงานส่วนใหญ่มาจากน้ำตาล ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่มากไป อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆได้ โดยช็อกโกแลต 1 ชิ้นพอดีคำ ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 กิโลแคลอรี่ หรือคุกกี้ 1 ชิ้น ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 กิโลแคลอรี่ สตรอว์เบอร์รี่เคลือบช็อกโกแลต 1 ชิ้น ขนาด 35 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี่ คัพเค้ก 1 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ให้พลังงานประมาณ 130 กิโลแคลอรี่ บราวนี่ 1 ชิ้น ขนาด 60 กรัม ให้พลังงานประมาณ 250 กิโลแคลอรี่ ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำ ให้ผู้ใหญ่และเด็กลดการบริโภคน้ำตาล จากปริมาณที่บริโภคไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชาต่อวัน เพื่อไม่ให้ได้รับพลังงานจากน้ำตาลมากเกินไป ซึ่งพลังงานจากอาหารว่าง ขนม และเครื่องดื่ม ไม่ควรเกินวันละ 150 – 200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ดังนั้นหากกินช็อกโกแลต คุกกี้ สตรอว์เบอร์รี่เคลือบช็อกโกแลต ไม่ควรเกินวันละ 3-4 ชิ้น ส่วนคัพเค้กและบราวนี่ไม่ควรมากกว่า 1 ชิ้นต่อวัน หากสามารถทำขนมเองได้ แนะนำให้เลือกสูตรหวานน้อย และสามารถเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยใยอาหารจากธัญพืชต่างๆ หรือผลไม้รสไม่หวานจัด
“สำหรับเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ กรมอนามัยแนะมอบของขวัญชิ้นพิเศษ ด้วยผลไม้สีแดง นอกจากจะมีสีสันที่สื่อถึงความรักแล้ว ยังอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารพฤกษเคมีที่มีคุณประโยชน์มากมาย ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ อาทิ แอปเปิ้ลแดงมีใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอล มีฟลาโวนอยด์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สตรอว์เบอร์รี่มีวิตามินซีค่อนข้างมาก ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ชะลอการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ใยอาหารสูงช่วยควบคุมความดันเลือด องุ่นแดง มีสารแอนโทไซยานิน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระลดการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดและชมพู่ทับทิมจันทร์ มีสารไลโคพีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหารช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด นอกจากนี้คู่รักควรสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยการชวนกันออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เพราะการให้ความรักที่ดีที่สุด คือ การให้สุขภาพที่ดี”