HEALTH

เปิดตัว เครื่อง MRI แบบยืน ทางเลือกใหม่ของคนปวดหลังแต่กลัวที่แคบ

นพ.ธนวัฒน์ อุณหโชค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท รพ.เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เครื่อง MRI แบบยืน ทางเลือกใหม่ของคนปวดหลังแต่กลัวที่แคบ ทำให้มองเห็นความผิดปกติของกระดูกสันหลัง ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ โดยเครื่อง MRI แบบยืน ลักษณะของตัวเครื่องจะเปิดโล่งด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งต่างจาก MRI แบบอุโมงค์ จึงช่วยให้ผู้ป่วยที่รู้สึกกลัวที่แคบ สามารถเข้ารับการตรวจได้แบบไร้กังวล

นพ.ธนวัฒน์ เผยว่า “จากผลสำรวจการใช้งานเครื่อง MRI ทั่วโลกในปี 2018 พบว่า ความเหมาะสมในการตรวจโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง มาเป็นลำดับแรก รองลงมาคือ สมอง เนื่องจากเครื่อง MRI ให้รายละเอียดและความคมชัดสูงระดับ 3 มิติ (3D) ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญการตรวจด้วยเครื่องมือชนิดนี้ ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ แก่ร่างกายและไม่มีอันตรายจากรังสี การตรวจด้วยเครื่อง MRI จะต้องใช้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กแรงสูง เพื่อให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน และด้วยข้อจำกัดทางด้านเทคนิค จึงทำให้การออกแบบเครื่อง MRI มีพื้นที่ของการสแกนแคบ ส่งผลให้ผู้ป่วยอาจรู้สึกอึดอัด และเกิดภาวะกลัวที่แคบได้ ทั้งนี้ในบางกรณีการตรวจด้วยท่านอน อาจไม่พบความผิดปกติของรอยโรค เพราะผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดในท่านั่งหรือยืน”

“ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น จึงมีผู้คิดค้นสนามแม่เหล็กแบบใหม่ ที่สามารถเข้าไปยืนหรือนั่งตรวจได้ (Weight Bearing MRI) เพื่อให้น้ำหนักกดลงในลักษณะแนวดิ่งเสมือนการยืน ทำให้แพทย์สามารถเห็นภาพการตรวจที่ใกล้เคียง กับสภาพความเป็นจริงของผู้ป่วยได้มากขึ้น อีกทั้งผู้ป่วยที่มีภาวะกลัวที่แคบ ก็สามารถทำการตรวจได้ เนื่องจากผู้พัฒนาสนามแม่เหล็กในแนวดิ่ง ได้ออกแบบให้สนามแม่เหล็กมีขนาดเล็กลง ทำให้ตัวเครื่องสามารถหมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพื่อสร้างภาพได้ทั้งขณะนอนและยืน”

“ทั้งนี้การตรวจจะขึ้นอยู่กับผู้ที่เข้ารับการตรวจ ว่ากลัวที่แคบมากน้อยเพียงไร โดยเจ้าหน้าที่จะทำการซักถามและประเมินอาการ หลังจากนั้นจะพาเข้าไปดูเครื่อง MRI พร้อมอธิบายลักษณะการทำงานและขั้นตอนในการตรวจเบื้องต้นก่อน เนื่องจากการตรวจในแต่ละส่วนนั้น จะมีความแตกต่างของการจัดท่าทางของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน เช่น กรณีที่ผู้ป่วยทำการตรวจในส่วนของศีรษะหรือคอ ตำแหน่งของศีรษะหรือคอต้องอยู่กึ่งกลางของตัวเครื่อง ดังนั้นถ้าหากท่านทราบมาก่อนว่า กลัวที่แคบ กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบในวันที่นัดตรวจ เพื่อจะได้ประเมินการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ”

“สำหรับข้อดีของ MRI แบบยืนนั้น จะมีรูปร่างและลักษณะของเครื่อง ที่เปิดโล่งด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งยังสามารถปรับความชัน ของระดับเตียงให้อยู่ในรูปแบบท่านั่ง ท่ายืน ท่านอน ท่ากึ่งนั่งกึ่งยืน ท่าก้มหรือท่าแอ่นหลังได้ เพื่อให้เห็นลักษณะการเคลื่อน ของกระดูกได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และใช้ระยะเวลาในการตรวจสั้น ทำให้แพทย์มองเห็นการกดทับ หรือความเสื่อมของหมอนรองกระดูกได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และยังสามารถสแกนกระดูกสันหลังเป็นภาพ 3 มิติ (3D) เพื่อวัดระยะต่างๆ ที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังในตำแหน่งที่สำคัญๆ ได้อย่างละเอียดและแม่นยำ”

ปัจจุบันเครื่อง MRI ที่มีใช้อยู่ทั่วโลกประมาณ 90% จะเป็นแบบอุโมงค์ ซึ่งต่างจากเครื่อง MRI แบบยืนที่มีจำนวนจำกัด แต่ที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และประโยชน์ของเครื่อง MRI แบบยืน จึงนำมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วย ที่มีปัญหาด้านกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีเพียงเครื่องเดียวในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัย ที่แม่นยำและตรงจุด แก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างยั่งยืน

Related Posts

Send this to a friend