HEALTH

กรมควบคุมโรค ร่วมคณะผู้แทนไทย ประชุมในเวทีสมัชชาอนามัยโลก

ย้ำสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน พร้อมแสดงจุดยืนกวาดล้างโปลิโอ-และสนับสนุนการทำลายเชื้อไวรัสก่อโรคฝีดาษ

วันนี้ (7 มิ.ย. 66) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดี นายแพทย์ไกรสร โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช นายแพทย์สุรเชษฐ์ อรุโณทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมคณะผู้แทนไทย เข้าประชุมสมัชชาอนามัยโลกสมัยที่ 76 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 21-30 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ผู้แทนกรมควบคุมโรค ได้กล่าวแสดงท่าทีของประเทศไทย ในวาระที่สำคัญต่างๆรวม 10 จาก 63 วาระ อาทิ การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ การพัฒนายุทธศาสตร์โลกด้านการป้องกัน และควบคุมการติดเชื้อ การป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ การดำเนินงานเพื่อยุติโรคโปลิโอ การทำลายเชื้อไวรัสก่อโรคฝีดาษที่เก็บไว้ และความร่วมมือด้านการพัฒนา ระบบการเตรียมการ และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข การปรับปรุงแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ และร่างสนธิสัญญาสำหรับจัดการการระบาดใหญ่

นายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคให้มีความพร้อม สร้างความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน การลงทุนเพื่อการพัฒนาศักยภาพกำลังคน ทางด้านสาธารณสุข และโอกาสในการปรับปรุงแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ ให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทของโลกและสถานการณ์โรคในปัจจุบัน ทั้งนี้กรมควบคุมโรคแสดงจุดยืนของไทย ในการทำลายเชื้อไวรัสก่อโรคฝีดาษ เนื่องจากโรคฝีดาษถูกกวาดล้างหมดแล้ว จึงต้องป้องกันความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของเชื้อ พร้อมเน้นย้ำถึงเจตจำนงของไทย ในการดำเนินงานกวาดล้างโปลิโอ โดยมุ่งเน้นการให้วัคซีนป้องกันที่ทั่วถึงและครอบคลุม ในกลุ่มประชากรเป้าหมาย”

ทั้งนี้ผู้แทนกรมควบคุมโรค ยังได้เข้าร่วมการประชุมคู่ขนาน และแบ่งปันประสบการณ์ ในวาระสุขภาพโลกที่สำคัญ เช่น การดำเนินงานด้านโรคไม่ติดต่อ การแก้ปัญหาวัณโรค ประสบการณ์การใช้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health Approach) ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลกที่ให้ความสำคัญ และผลักดันการสร้างความร่วมมือ ในการทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ ร่วมกันหลายภาคส่วน ทั้งสุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม จนได้ผลอย่างดี และไทยเป็นประเทศแรก ที่รับการประเมินการพัฒนาสมรรถนะ ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยคณะผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก ซึ่งผลการประเมินสะท้อนถึงการยกระดับงานด้านสาธารณสุข และความมั่นคงทางสุขภาพที่ก้าวหน้ามากขึ้น ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา

Related Posts

Send this to a friend