ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ชูกลยุทธ์จัดการบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ใช้หลัก EPR ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
วันนี้ (29 ส.ค. 68) บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยแนวทางการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยใช้หลักการขยายความรับผิดชอบไปยังผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) เพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและแก้ไขปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ในประเทศ. การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษในปี 2566 ระบุว่ามีปริมาณมากกว่า 3 ล้านตัน แต่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์เพียง 25% หรือ 0.75 ล้านตันเท่านั้น.
บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (Sustainable Packaging Management) ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ส่วนหลัก:
1.ต้นน้ำ: การออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติก PET แบบใส ไม่มีสี ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้ 100%. บริษัทเป็นรายแรกในตลาดเครื่องดื่มไทยที่ใช้ขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% (ขวด rPET 100%) กับผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่และทีพลัส. นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ขวดน้ำหนักเบาที่ลดการใช้วัสดุใหม่ลงกว่า 30% , ฝาขวดน้ำอัดลมน้ำหนักเบาที่ลดการใช้พลาสติกลง 16% และยกเลิกการพิมพ์สีบนฝาขวดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรีไซเคิล.
2.กลางน้ำ: การสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภค
บริษัทมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง ผ่านการสื่อสารในหลายช่องทาง ทั้งบนฉลากผลิตภัณฑ์และกิจกรรมต่างๆ. เนื้อหาครอบคลุมหลักการ 3R (Reduce-Reuse-Recycle) และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ PET และ rPET เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการนำบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล.
3.ปลายน้ำ: การจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ ดำเนินการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วผ่าน 3 รูปแบบหลัก:
การดำเนินงานตามประเภทบรรจุภัณฑ์: บริษัทเป็นหนึ่งใน 8 สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายองค์กรความร่วมมือจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (PRO-Thailand Network) ตั้งแต่ปี 2562. โดยระหว่างปี 2563-2567 เครือข่ายฯ สามารถเก็บกลับขวด PET ใช้แล้วได้รวม 56,734.15 ตัน, กล่องเครื่องดื่ม UHT 1,077.45 ตัน และบรรจุภัณฑ์ชนิดหลายชั้น (MLP) 1,337.15 ตัน.
การดำเนินงานเชิงพื้นที่: ดำเนินโครงการ “ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่” ในพื้นที่นำร่อง จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเครื่องดื่ม. กิจกรรมประกอบด้วยการตั้งถังแยกขวด PET กว่า 220 ถังตามสถานที่ต่างๆ , จัดตั้ง “สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล” ที่บริหารโดยชุมชน , และจัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะในโรงเรียน.
การดำเนินงานเชิงกิจกรรม: ส่งเสริมการคัดแยกขยะในเทศกาลดนตรีและกิจกรรมระดับประเทศ เช่น แคมเปญ “Waste Nothing – มันส์ แล้ว ทิ้ง” ในงานบิ๊กเมาน์เท่นมิวสิคเฟสติวัล ซึ่งในปี 2567 สามารถเก็บกลับขวด PET ได้ 1,485 กิโลกรัม. นอกจากนี้ยังสนับสนุนถังแยกขวด PET จำนวน 125 ถังให้กับกรุงเทพมหานครเพื่อใช้ในงานกาชาดเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (2565-2567)
บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายผลโครงการด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนต่อไป โดยมุ่งยกระดับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างระบบหมุนเวียนบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์และสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว












