ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังงานสะอาดไม่ใช่อนาคต แต่คือภารกิจของวันนี้
ประเทศไทยได้ประกาศพันธสัญญาในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ภายในปี 2608 โดยเป้าหมายดังกล่าวได้ประกาศอย่างเป็นทางการในเวที COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าไปสู่เป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย และเต็มไปด้วยความท้าทายทั้งเชิงโครงสร้าง เทคโนโลยี และนโยบาย ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจต้องมีส่วนร่วมเพราะเป็นส่วนสำคัญที่สุด ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ต่อให้หน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงต่าง ๆ องค์กรของรัฐ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ เป็นฝ่ายติดตั้งโซลาร์เซลล์เอง ใช้พลังงานสะอาด เอง หรือประชาชนใช้รถ EV แต่ถ้าภาคโรงงาน โลจิสติกส์ ดาต้าเซ็นเตอร์ไม่เปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสะอาด หรือช่วยกันไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ประเทศก็ไม่ถึงเป้าหมายโดยเฉพาะพลังงานเป็นตัวแปรสำคัญในการปล่อยคาร์บอน เพราะทุกภาคส่วนต่างต้องใช้พลังงาน จากข้อมูลของสำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน พบว่ามีการใช้พลังงงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปล่อยก๊าซ CO2 จากการใช้พลังงานของประเทศไทยในปี 2567 อยู่ที่ระดับ 245.7 ล้านตัน CO2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับปี 2566
“การทรานส์ฟอร์มด้านพลังงานไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการสร้างความร่วมมือในทุกระดับ ตั้งแต่ภาครัฐ เอกชน ไปจนถึงภาคประชาชน” ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดประเด็น
“ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืนเป็นศูนย์กลาง สะท้อนผ่านกลยุทธ์ที่วางรากฐานไว้ในดีเอ็นเอขององค์กร เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปด้านพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัท ‘สร้างแรงบันดาลใจให้กับยุคถัดไปของพลังงานที่ยั่งยืน’(Inspire the next era of sustainable energy) ผ่านโครงสร้างหลัก 5 กลุ่ม ได้แก่ Grid Automation, Grid Integration, High Voltage Products, Transformers และ Service ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ไปจนถึงปลายทาง
ในส่วนต้นทาง บริษัทมีเทคโนโลยีสำหรับเชื่อมต่อพลังงานหมุนเวียนจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ลมและแสงอาทิตย์ เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมที่ทันสมัย กลางทางคือระบบส่งไฟฟ้าแรงสูง (Transmission) ที่ประกอบด้วยสายส่ง หม้อแปลง อุปกรณ์ควบคุม และเทคโนโลยี HVDC รวมถึงการผสานโครงข่ายไฟฟ้าเข้าด้วยกัน (Grid Integration) ส่วนปลายทางครอบคลุมการกระจายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ ทั้งในระดับอุตสาหกรรม เมือง และชุมชน ผ่านระบบ Grid Automation, Smart Grid และแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกจากนี้ ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ยังได้เริ่มนำเทคโนโลยีอย่างหม้อแปลงพลังงานรุ่นใหม่ และสวิตช์เกียร์ ภายใต้ชื่อ EconiQ ที่ลดการใช้ก๊าซ SF₆ (หนึ่งในก๊าซเรือนกระจก) ระบบจัดการพลังงานแบบอัจฉริยะ และโครงข่ายไฟฟ้าแบบยืดหยุ่นมาใช้งานจริง เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยทั้งแนวคิดในการดำเนินธุรกิจทั้งห่วงโซ่ ล้วนยึดถือหลักในความยั่งยืน ตั้งแต่นโยบายขององค์กร การออกแบบและวิจัยผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อช่วยให้ทั้งพาร์ทเนอร์ และลูกค้า สามารถไปสู่แนวทางความยั่งยืนได้พร้อมๆ กัน
แนวคิดนี้หล่อหลอมวิธีคิด วิธีดำเนินงาน และแนวทางการกำกับดูแลของบริษัทในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม สังคม หรือธรรมาภิบาล เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเป็นธรรม และเป็นองค์ประกอบสำคัญของพันธกิจหลักขององค์กรที่ว่า ‘สร้างแรงบันดาลใจให้กับยุคถัดไปของพลังงานที่ยั่งยืน’
ดร.วรวุฒิ เล่าให้ฟังว่า “เรานิยามตนเองว่าเป็นผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจร (solution provider) ที่ไม่ได้เพียงจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเทคโนโลยี แต่มีบทบาทเชิงรุกในการวางแผน ออกแบบ และให้คำปรึกษาทางเทคนิคแบบบูรณาการ ตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงการดำเนินการจริงในภาคสนาม ในขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งสร้างความร่วมมือในรูปแบบพันธมิตร (partner) กับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา โดยยึดแนวทาง การร่วมสร้างสรรค์ (co-creation) ซึ่งหมายถึงการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่แค่การเสนอสินค้า แต่เป็นการวางวิสัยทัศน์และออกแบบอนาคตด้านพลังงานไปพร้อมกันในทุกมิติ เพื่อให้แต่ละธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนในส่วนของพลังงานได้อย่างมั่นคง”
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ยังให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรและมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน โดยมี ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีพลังงานใหม่ๆ รวมถึงมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนที่โรงงาน ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาสำหรับสถาบันต่างๆ รวมถึงลูกค้าที่ต้องการต้นแบบสำหรับทิศทางเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนอีกด้วย
