‘ไทยยูเนี่ยน’ ประกาศความคืบหน้ากลยุทธ์ ‘SeaChange 2030’ ในเวที UN Ocean Conference
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แสดงเจตนารมณ์ในการดูแลมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล (SDG 14) ในการประชุมมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติประจำปี 2568 (United Nations Ocean Conference 2025) ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปกป้องท้องทะเลเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน และกลยุทธ์ SeaChange® 2030 คือบทพิสูจน์ว่าภาคธุรกิจสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้เมื่อผนวกความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงาน โดยบริษัทได้จัดสรรงบประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,200 ล้านบาท) เพื่อดำเนิน 11 พันธกิจหลักจนถึงปี 2573
สำหรับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นในปี 2567 ตามรายงานล่าสุดของบริษัท ประกอบด้วย การจัดหาปลาทูน่าจากแหล่งประมงที่ผ่านการรับรองหรืออยู่ในโครงการพัฒนาการประมง (FIPs) ได้ถึง 98.9 เปอร์เซ็นต์ สามารถตรวจสอบย้อนกลับในห่วงโซ่อุปทานปลาทูน่าได้ 97 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลงได้ 21 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มกุ้ง และลดปริมาณขยะพลาสติกในแหล่งน้ำได้ 234 ตัน
นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า ความโปร่งใส หลักการทางวิทยาศาสตร์ และความร่วมมือ คือรากฐานสำคัญของกลยุทธ์ และภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานใหม่และสร้างความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนยังคงมีบทบาทสำคัญในความร่วมมือระดับโลก โดยเป็นบริษัทแรกที่ลงนามในคำมั่นสัญญา “Protecting Ocean Wildlife” ของ Sustainable Fisheries Partnership เมื่อปี 2566
นายธีรพงศ์กล่าวเสริมว่า มหาสมุทรมีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลสภาพภูมิอากาศและเป็นแหล่งอาหารของผู้คนนับพันล้าน จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันปกป้องมหาสมุทรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน