ECONOMY

กกพ. เลื่อนลงนามซื้อขายไฟฟ้า 43 ราย โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ นำร่อง 150 เมกะวัตต์

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยผลการประชุม กกพ.ครั้งที่ 61/2565 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบประกาศเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ครั้งที่ 6 เพื่อขยายระยะเวลาลงนาม

สัญญาจากประกาศเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 ธ.ค. 65 เป็นสิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. 66 ตามที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เสนอ เพื่อให้ กฟภ.พิจารณาจัดเตรียมเอกสารและประสานกับผู้ผลิตไฟฟ้า ขอยืนยันการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ าภายหลังจากที่ กฟภ.ได้รับผลการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) 150 เมกะวัตต์ กกพ.ได้ประกาศผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 64 มีผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 43 ราย คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 149.50 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย)

แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทชีวมวล 16 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 75.00 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทก๊าซชีวภาพรวม 27 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 74.50 เมกะวัตต์ ตามกรอบเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดเป้าหมายจากเชื้อเพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 43 ราย ไม่อาจลงนามซื้อขายไฟได้ เพราะมีการร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. จนทำให้ต้องเลื่อนเวลาลงนามมาแล้วถึง 5 ครั้ง

Related Posts

Send this to a friend