พาณิชย์ ถก MUJI เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นของไทย
กระทรวงพาณิชย์ ถก MUJI ต่อยอดโครงการ Local specialties เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นไทย วางแผนขยายไปยัง จ.อุดรธานี และขอนแก่น
นายกองตรี พิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับ Akihiro KAMOGARI ซึ่งเป็น Managing Director บริษัท Ryohin Keikaku (MUJI) ประเทศไทย และคณะว่า กระทรวงพาณิชย์หารือเรื่องความเป็นไปได้ในการต่อยอดโมเดลโครงการ Local specialties ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมสินค้าของดี ของเด่น ของเหลือ ในพื้นที่มาต่อยอดหรือแปรรูปและจัดจำหน่ายผ่านสาขาในภูมิภาค เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับชุมชน
โครงการนี้ได้เริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีแผนต่อยอดไปที่ จ.อุดรธานี และขอนแก่น โดยกระทรวงพาณิชย์มีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอยู่ทั่วประเทศไทย ซึ่งสามารถให้ข้อมูล หรือหาพันธมิตรในท้องถิ่น เพื่อร่วมพัฒนาสินค้าไทย และยินดีแนะนำหน่วยภาคการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย วิสาหกิจชุมชน เพื่อต่อยอดการพัฒนาและสินค้า และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับชุมชนต่อไป ซึ่งในอนาคตหวังว่าจะได้เห็นสินค้าไทยที่ได้รับการพัฒนาแล้วไปวางจำหน่ายยังร้าน MUJI ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก
นายกองตรี กล่าวต่อว่า ได้เชิญชวนให้ MUJI เยี่ยมชมงาน STYLE Bangkok ระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานที่โซน OTOP และโซน New Faces ซึ่งรวบรวมผู้ประกอบการไทยจากทั่วประเทศไทยมาร่วมจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น โดยเฉพาะงาน Craft หรืองานหัตถกรรม หาก MUJI สนใจผู้ประกอบการ กระทรวงพาณิชย์ยินดีประสานจัด Business Matching ให้
สำหรับมูจิ (MUJI) ก่อตั้งขึ้นในปี 1980 มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจโดยเน้นเรื่องของความยั่งยืนตามแนวทางของนโยบาย ESG (Environment, Social, Governance) ขององค์การสหประชาชาติ ปัจจุบัน MUJI มีสาขาทั่วโลกกว่า 1,000 แห่ง (มีสาขาในประเทศไทย 32 สาขา) มีสินค้ากว่า 7,000 รายการ และมียอดขายทั่วโลก 121,000 ล้านบาท/ปี (กำไร 9,000 ล้านบาท) และมีมูลค่าบริษัทราว 100,000 ล้านบาท
