‘สุชาติ’ ดันผลไม้ไทยบุกห้างเกาหลีใต้ ตั้งเป้ายอดขาย 70 ตัน
วันนี้ (23 เม.ย. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สำรวจศักยภาพผลไม้ไทยในตลาดเกาหลีใต้ พร้อมหารือกับ คิม จง ฮุน ผู้จัดการห้าง Lotte สาขาใหญ่ หาลู่ทางเพิ่มโอกาสในการซื้อขายผลไม้ไทย หลังร่วมงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล ยังร่วมมือกับห้าง Lotte จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทย ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน และมังคุด ใน 7 สาขาของห้าง ทั่วกรุงโซลและจังหวัดใกล้เคียงวันที่ 11–27 เมษายน 2568 สร้างภาพลักษณ์ผลไม้ไทยในตลาดเกาหลีใต้ โดยผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าระดับพรีเมียม การจัดกิจกรรมนี้ช่วยกระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทยในตลาดเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยต่อไป ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายผลไม้ไทยระหว่างงานทั้งสิ้น 70 ตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท
นายสุชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยมีสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงที่ต้องการนำเสนอให้ผู้บริโภคของเกาหลีใต้ได้รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดเกาหลีใต้ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญและสามารถควบคุมคุณภาพได้ในระดับสากล ทั้งนี้ ได้ให้ทีมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย–เกาหลีใต้ พิจารณาอย่างจริงจังในประเด็นเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงของไทย เช่น มะม่วง มังคุด และสับปะรด กุ้งสดและแปรรูป เนื้อไก่สดและแปรรูป เสริมสร้างโอกาสทางการค้า เพิ่มมูลค่าการส่งออก และสนับสนุนรายได้ของเกษตรกรไทยในระยะยาว
เกาหลีใต้เป็นตลาดส่งออกสำคัญของมะม่วงจากไทย ผู้บริโภคเกาหลีใต้นิยมรับประทานมะม่วงไทย เนื่องจากชื่นชอบในรสชาติที่โดดเด่นในราคาที่เหมาะสม มีการนำมะม่วงมาพัฒนาเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่ถูกปากผู้บริโภคเกาหลีใต้ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง พุดดิ้งมะม่วง เค้กมะม่วง นอกจากนี้ ชาวเกาหลีใต้ยังนิยมให้มะม่วงเป็นของขวัญในเทศกาลสำคัญต่าง ๆ โดยคาดการณ์ว่า ตลาดมะม่วงไทยในเกาหลีใต้จะขยายตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เกาหลีใต้อนุญาตให้นำเข้าผลไม้สดจากไทยเพียง 6 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน มังคุด มะพร้าว กล้วย และสัปปะรด โดยมะม่วงเป็นสินค้าผลไม้ส่งออกอันดับ 1 ของไทยไปยังเกาหลีใต้ และเกาหลีใต้ยังเป็นตลาดส่งออกมะม่วงอันดับ 1 ของไทย โดยมีมูลค่าการส่งออกในปี 2567 ถึง 2,931 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.2 ของมูลค่าการส่งออกมะม่วงของไทยทั้งหมด ขยายตัวถึงร้อยละ 132.7 จากปีก่อนหน้า
