CRIME

ศาลอาญาสั่งจำคุก 4 ปี ‘กลุ่มทะลุแก๊ส’ เหตุชุมนุมทางการเมืองปี 65

ศาลอาญาสั่งจำคุก 4 ปี ‘กลุ่มทะลุแก๊ส’ เหตุชุมนุมทางการเมืองปี 65 วางเพลิงเผารถตำรวจ 2 คัน ใต้ทางด่วนดินแดง ตะวัน และกลุ่มเพื่อนให้กำลังใจ

วันนี้ (30 ส.ค. 66) เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีเผารถยนต์ตำรวจ หมายเลขดำ อ.1847/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายวัชรพล นายพลพล นายจตุพล และนายณัฐพล ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ตามลำดับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”

อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2565 จำเลยกับพวกประมาณ 50-80 คน ซึ่งรวมเยาวชนชายอีก 2 คน ทำกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย นอกจากนี้พวกจำเลยยังร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถยนต์ตราโล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความเสียหายเป็นเงิน 91,692 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 215, 216 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (9) ซึ่งจำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

ในวันนี้ จำเลยทั้งสี่พร้อมทนายความมาฟังคำพิพากษาตามนัดโดยศาลเห็นว่าฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกความในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดสอดคล้องกันว่า วันเกิดเหตุมีผู้ชุมนุมประมาณ 50-80 คนขี่รถจักรยานยนต์ มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดงโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ที่จำเลยที่ 1, 3 และ 4 อ้างว่าแค่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่ได้เผาทำลายรถยนต์ 2 คัน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นฟังไม่ขึ้น เห็นว่าจำเลยทั้งสามกระทำผิดตามฟ้องจริง

ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยที่ 1, 3 และ 4 กระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำคุกฐาน “ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ให้ได้รับความเสียหาย” ซึ่งเป็นบทหนักสุด ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้งสามมีอายุ 18-19 ปีเศษ ย่อมรู้ผิดชอบชั่วดี เห็นควรให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 4 ปี คำเบิกความของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้คนละ 1 ใน 4 เหลือจำคุกคนละ 3 ปี ไม่รอลงอาญา

ส่วนจำเลยที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้เพียงว่ากระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจที่บอกให้หยุดแต่ไม่ยอมหยุดเท่านั้น ไม่ปรากฏภาพว่าจำเลยร่วมวางเพลิงเผา จึงให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

สำหรับการฟังคำพิพากษาในวันนี้มี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ‘ตะวัน’ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง จำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูงและเพื่อนของจำเลยทั้งสี่กว่า 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ ขณะที่ทนายความของจำเลยทั้ง 4 เตรียมยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดีต่อไป

Related Posts

Send this to a friend