’ทนายตั้ม’ พาผู้เสียหายยื่นขอโอนคดีขืนใจดาราสาวให้สอบสวนกลาง

’ทนายตั้ม’ พร้อมผู้เสียหาย กรณี อดีตหลานรมต.ขืนใจดาราสาว ยื่นขอโอนคดีให้สอบสวนกลาง เหตุ ไม่ไว้ใจการทำงานของ สน.โชคชัย หลัง ทำหลักฐานตกหล่น ด้านผู้เสียหาย ย้ำ มีหลักฐานชัดเจนพร้อมสู้

วันนี้ (29 ส.ค. 65) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ​ “ทนายตั้ม” พร้อมผู้เสียหาย เข้ายื่นขอโอนคดีที่ถูกนักธุรกิจเจ้าของบริษัทใหญ่ หลานชายอดีตรัฐมนตรี ก่อเหตุวางยาข่มขืนในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส 2 ที่ศูนย์รับแจ้งความ​ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง​

นายษิทรา ระบุว่า ตนเองพาผู้เสียหายมาที่โอนคดีให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง เนื่องจากไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจสน.โชคชัย จากที่เรานำหลักฐานไปแสดงจนครบ แต่ทางตำรวจทำหลักฐานข้อความหารสนทนาตกหล่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในสำนวนคดี รวมไปถึงการสอบปากคำที่ไม่ละเอียด จึงได้มีการขอให้สอบปากคำใหม่ และตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย พร้อมย้ำว่าก่อนทำทุกคดี ผมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ไม่งั้นจะเสียชื่อเสียงได้ ผมมั่นใจว่าเป็นเรื่องจริง เลยรับทำคดี และเป็นทนายความให้

นายษิทรา ระบุต่อว่า ในวันนั้นผู้เสียหายทะเลาะกับพี่สาวจริง แต่ก็ไม่ยินยอมให้มีการกระทำดังกล่าวอยู่ดี ฝากถามถึงนายเอ็ม ผู้ถูกกล่าวหา ว่า ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิดจะทำลายหลักฐานด้วยการยกเลิกข้อความทำไม และเราได้เก็บหลักฐานส่วนนี้ไว้หมดแล้ว ตั้งแต่ก่อน และหลังยกเลิกข้อความ

ส่วนกรณีที่ญาติผู้ถูกกล่าวหาได้ท้าให้ผู้เสียหายดื่มน้ำสาบานนั้น ทางนายษิทรา ระบุว่า นัดวันเวลา และสถานที่มาได้เลย ซึ่งตามจริงผู้เสียหายเชื่อในหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า แต่ถ้าท้ามาก็พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ

นางสาวแนน ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองมีหลักฐานทุกอย่าง ไม่ได้จะแบล็กเมล์ตามที่นายเอ็ม ผู้ถูกกล่าวหาให้สัมภาษณ์กับสื่อ คนที่รับรู้ทุกอย่างคือพี่สาว ถ้าไม่ได้ทำผิดจริง จะโทรมาเสนอเงินทำไม เราอยากได้ความถูกต้อง ไม่อยากได้เงิน และทางเราก็มีหลักฐานแน่นเหมือนกัน ว่าที่ติดต่อเข้ามานั้น เป็นแค่การเอางานมาอ้าง เราไม่ได้ขาดสติในการนัดเจอเพื่อคุยงาน ส่วนเรื่องที่ผู้กล่าวหาบอกว่าเราให้ช่วยหาโรงแรมให้นั้น ขอให้อยู่ในรูปคดีดีกว่า

นางสาวแนน กล่าวต่อว่า หากดูการเคลื่อนไหวในโซเชียล จะพบว่าทางนายเอ็มพยายามใช้เครดิตทางธุรกิจ และเรื่องการเป็นลูกหลานของคนใหญ่คนโตมาทำแบบนี้ จึงอยากให้ดูภาพรวมความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมากกว่า

ส่วนกรณีที่มีการสั่งย้ายผู้กำกับ สน. โชคชัยนั้นนางสาวแนน ระบุว่า เป็นเพราะทำคดีบกพร่อง และทำให้รูปคดีผิดเพี้ยน เราตรวจร่างกายไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่พูดจาไม่ดี โดยมีเนื้อหาว่าเราสมยอมเองหรือไม่ และออกใบส่งตัวให้เราไปตรวจร่างกายอีกครั้งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าหากเราไปตรวจอีกครั้งก็จะไม่พบหลักฐานคราบอสุจิ เพราะผ่านไปหลายชั่วโมง หลายวันแล้ว โดยได้รับคำแนะนำจากแพทย์ไม่ให้ตรวจซ้ำ มิเช่นนั้น ผลการตรวจร่างกายครั้งใหม่อาจถูกนำไปใช้เป็นหลักฐาน และส่งผลต่อรูปคดีได้

ด้านพี่สาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ทะเลาะกันกับนางสาวแนนจริง ซึ่งเป็นเรื่องงาน เนื่องจากเราอยากไปทำงานประจำ และต้องหาผู้จัดการคนใหม่ซึ่งก่อนวันเกิดเหตุได้มีติดต่อคุยงานกันจริง โดนหลังจากส่งโปรไฟล์ผลงานให้กับนายเอ็ม ก็ให้การตลาดของบริษัทติดต่อมาเพื่อคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับเรา และมีการนัดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกัน

พี่สาวผู้เสียหายยังระบุอีกว่า หากนายเอ็ม มีหลักฐานจริงตามที่อ้างกับสื่อ ก็นำเอาหลักฐานที่มีมาเปิดเลยดีกว่า และไม่แปลกใจที่นายเอ็มเปิดหน้าท้าชน อีกทั้งยังแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ อ้างว่าถูกรังแก เพราะในโซเชียลก็มีการเผยแพร่ภาพของนายเอ็มอย่างชัดเจน

ซึ่งหลังจากนี้ทางทนายษิทรา และผู้เสียหายจะไปติดตามผลการตรวจร่างกายอีกครั้งที่โรงพยาบาล เป็นการตรวจเลือดเพิ่มเติม เนื่องจากก่อนหน้ามีเพียงผลการตรวจปัสสาวะเท่านั้น