CRIME

‘พวงเพ็ชร’ นำทีมทลายโกดังนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ไร้ อย.

‘พวงเพ็ชร’ นำทีม สคบ. – ตำรวจไซเบอร์ – อย. ทลายโกดังนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ไร้ อย. เดือนเดียวสูญถึง 10 ล้านบาท จ่อขยายผลทั่วประเทศ

วันนี้ (27 ก.พ. 67) เวลา 15.30 น. ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นำชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง สคบ. ตำรวจไซเบอร์ และ อย. ทลายโกดัง จับกุมเครือข่ายหลอกขายสินค้าผิดกฎหมาย โฆษณาเกินจริง ไม่มี อย. ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงหลอกส่งสินค้าเก็บเงินปลายทาง บริเวณหมู่บ้านย่านรังสิต คลอง 3

สืบเนื่องมาจาก สคบ. รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกให้ชำระเงินค่าพัสดุปลายทาง จากการสั่งซื้อสินค้าเป็นกระดาษทิชชู่ โดยร้านค้าจัดส่งไปยังบ้านเรือนประชาชน และให้พนักงานเก็บเงินปลายทาง สคบ. จึงประสานไปยังตำรวจไซเบอร์ และ อย. พบว่าแหล่งกระจายสินค้าดังกล่าวยังมีสินค้าอีกหลายประเภทที่ลักลอบจำหน่ายโดยไม่ผ่านการจดแจ้งของ อย. โดยสินค้าดังกล่าวถูกส่งมาจากเวียดนาม ลงโฆษณาและขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และยังตรวจพบบัญชีการจำหน่ายสินค้า ยอดเมื่อเดือนมกราคม จำหน่ายได้กว่า 4,700 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท และมียอดสั่งซื้อเดือนกุมภาพันธ์อีกประมาณ 9 ล้านบาท เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้นำเข้าซึ่งเป็นชาวไทยและชาวเวียดนามได้ และจะขยายผลต่อไป

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เป็นไปตามความผิดฐาน ‘ฉ้อโกง’ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สินค้า 5 ประเภท ได้แก่ ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง สมุนไพร และเครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีฟิลเลอร์ (Filler) และโบท็อกซ์ (Botox) รวมอยู่ด้วย มีความผิดตาม พรบ.ของ อย. มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท และยังมีความผิดฐานนำเข้า พรบ.คอม รวมถึงโฆษณาเกินจริงอีกด้วย

ดร.พวงเพ็ชร กล่าวว่า ตนกำชับ สคบ. ให้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคเชิงรุก ซึ่งจากกรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายสูง มีเครือข่ายขนาดใหญ่ ซื้อขายผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคร้องเรียนมายัง สคบ. มากที่สุด การลงพื้นที่จับกุมครั้งนี้ ถือเป็นผลสำเร็จที่สามารถจับผู้ค้ารายใหญ่ และจะมีการขยายผลในระยะต่อไป

Related Posts

Send this to a friend