CRIME

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ เผย อดีตอธิบดี DSI ให้การไม่สอดคล้องกับ ชุดตรวจค้นบ้านพักกงสุลนาอูรู

เตรียมเรียกสอบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความจริง เชื่อสุดท้าย ต้องมีใครที่ไม่ยอมตายคนเดียว

วันนี้ (27 ม.ค.66) เวลา14:00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวถึงกรณีการเรียก นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับชุดปฎิบัติการที่เข้าตรวจค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทยเมื่อช่วงค่ำวานนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า อดีตอธิบดีดีเอสไอ ยอมรับว่า เป็นผู้ตั้งชุดเฉพาะกิจในด้านการข่าวขึ้นมาจริง และให้ไปปฎิบัติหน้าที่ที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยหลังจากปฏิบัติการตรวจค้นเสร็จแล้วก็ไม่ได้รายงานกลับมาให้อธิบดีทราบถึงผลการตรวจค้น ซึ่งคำให้การของอดีตอธิบดี ไม่สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่เข้าให้ปากคำไปก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าได้รายงานให้นายไตรยฤทธิ์ทราบไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะต้องไปไล่ตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของคำให้การ และนำไปเปรียบเทียบกับพยานหลักฐาน โดยเชื่อว่าจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ที่ไม่พูดความจริง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ก็จะเรียกนายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ หรือ ผู้อำนวยการกองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ ซึ่งอยู่หน้าห้องทำงานของนายไตรยฤทธิ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อเทียบเคียงหลักฐาน และตรวจสอบเวลาตามพยานหลักฐานที่พบ

สำหรับกรณีเงิน 9.5 ล้านบาท ที่ถูกรีดทรัพย์ไปนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เชื่อว่า เงินดังกล่าวได้แบ่งกันไปทั้งหมดแล้ว และหาไม่พบ ซึ่งอดีตอธิบดีดีเอสไอ ก็ยืนยันว่า ไม่รู้เรื่องการรีดทรัพย์เงินในจำนวนดังกล่าว รวมทั้งการเข้าไปตรวจค้นในคอนโดมิเนียม ย่านห้วงขวางของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทั้ง 3 คน ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้เตรียมขอศาลออกหมายจับในข้อหา บุกรุกเคหสถาน และลักทรัพย์ เนื่องจากพบภาพจากวงจรปิดว่าได้นำพระเครื่องออกจากห้องไป ซึ่งห้องนี้เป็นของครอบครัวอดีตกงสุลนาอูรูที่ในวันเกิดเหตุไม่อยู่ในห้อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับจุดเริ่มต้นในการเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู เริ่มมาจากที่เจ้าหน้าที่ในสถานกงสุล ทำหนังสือแจ้งมาที่อธิบดีดีเอสไอให้จัดชุดไปตรวจสอบ ซึ่งจะต้องเรียกบุคคลนี้มาให้ข้อมูลถึงสาเหตุการให้ไปตรวจสอบ รวมทั้งการเข้าตรวจค้นที่คอนโดมิเนียม โดยหลังจากการสอบสวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วก็จะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่าใครเป็นผู้สั่งการ และสุดท้ายจะไม่มีใครยอมตายคนเดียวแน่นอน

Related Posts

Send this to a friend