‘ทนายเดชา’ เปิด 3 เหตุผลถอนตัวคดีแตงโม ลั่น กราบลาพระมารดา หมดเวรหมดกรรมแล้ว

‘ทนายเดชา’ แถลงเปิดใจหลังถอนตัวคดีแตงโม เปิด 3 เหตุผลหลัก เตือนคุณแม่ให้ระวังตัวกลัวถูกหลอก เป็นห่วงเสมอ ยันไม่ได้ถูกปลด แต่ถอนตัวเอง ลั่น กราบลาพระมารดา หมดเวรหมดกรรมแล้ว

วันนี้ (26 พ.ค. 65) เมื่อเวลา 13:55น. ที่อาคารมาลีนนท์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยกรณียุติบทบาทการเป็นทนายความให้กับนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา พัชระวีระพงษ์ จากคดีการเสียชีวิตของแตงโม โดยให้เหตุผลว่า ที่ตนถอนตัวจากคดีนี้ เกิดจากความไม่เข้าใจกับทางตัวคุณแม่ ในหลายเรื่องๆ พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้ถูกปลด แต่ตนถอนตัวเอง

ภายหลังจากที่เมื่อช่วงเช้า ที่นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนได้รับมอบจากตัวคุณแม่ ให้เป็นฝ่ายกฎหมาย และดูแลเกี่ยวกับคดีของแตงโม นิดา ทุกคดีหลังจากนี้ไป ซึ่งหลังจากนั้นตนได้โทรไปถามทางคุณแม่ของแตงโม นิดา ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อตัดสินใจอนาคตของตนเอง และตัดสินใจยุติบทบาทลง หลังจากทำเรื่องอัยการส่งฟ้องศาลในทันที

ทนายเดชา ยังได้กล่าวถึง 3 เหตุผลหลักที่ทำให้ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นทนายให้กับคุณแม่ดังนี้

1.ความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน เพราะแม่เชื่อ ส.ส.มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ว่าเป็นคดีฆาตกรรม แม่ถามว่าสะดวกใจไหมที่ทำคดีเป็นการฆาตกรรม แต่หลักฐานที่อัยการจะฟ้องพรุ่งนี้เป็นคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตนจึงตัดสินใจขอถอนตัว และจะรับผิดชอบคดีไปจนอัยการออกคำสั่งฟ้องเท่านั้น

2.แม่เอาโทรศัพท์แตงโมให้ บังแจ็ค จนมีภาพแตงโมหลุดออกไป และแม่อ้างว่าโทรศัพท์อยู่กับตน ทำให้ตนรับไม่ได้ มองว่าไม่น่าเอาโทรศัพท์ให้บังแจ็ค เพราะเขาไม่น่าเชื่อถือ จะให้นายอัจฉริยะ หรือคนอื่นยังเหมาะสมมากกว่า ยอมรับว่าโอกาสที่จะนำโทรศัพท์กลับมานั้นยาก และบังแจ็คคงไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้อย่างแน่นอน

3.แม่ไม่พอใจนายศิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่มีการโพสต์กล่าวหา โดยแม่ได้ขอให้ตนฟ้องทนายตั้ม หลังเขาไม่ยอมขอโทษที่โพสต์ไป แต่ตนไม่ฟ้องเพราะเป็นเพื่อนกับทนายตั้ม ยืนยันว่าแม่ไม่ได้ปลดจากการเป็นทนาย แต่เป็นเหตุผลดังกล่าวทั้งหมด โดยแม่เริ่มที่จะเปลี่ยนใจหลังตำรวจแถลงข่าวกรณีใบพัดเรือ

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหลังไปออกรายการและแถลงข่าวไม่มีประเด็นใดที่แม่ไม่พอใจตนเอง ตอนนี้ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แม้จะมีทนายคนใหม่ หากยังจะให้ตนไปช่วยเหลือคดี ก็ยินดี เพราะตนมีข้อมูลเยอะ เนื่องจากติดตามคดีมาตลอด

“ยอมรับว่าเป็นห่วงแม่ว่าจะไปถึงฝั่งหรือไม่ ก็ภาวนาให้ชนะคดี ขอกราบลาพระมารดา อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็ขอให้ได้ที่ปรึกษาใหม่ที่รักมารดานานๆ ตอนนี้มีใครที่มาช่วยแม่ ถ้าหมดโปรสื่อไม่สนใจ ก็ขอมารดาจงเจริญ จุ๊กกรู๊ หมดเวรหมดกรรมแล้ว” ทนายเดชา กล่าวและว่า ตนเองได้คุยกับพนักงานสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องทราบว่าไม่มีการฆาตกรรมบนเรือหรือกรีดขา ยืนยันว่าไม่น้อยใจ แต่เข้าใจและเป็นห่วงแม่ รวมทั้งอยากฝากนายดายศ พี่ชายแตงโม ดูแลแม่ด้วย เพราะมีคนที่เข้าหาเขาเยอะ จึงกลัวว่าอาจจะถูกหลอก”

ส่วนการกระทำของบังแจ็คนั้นน่ากลัว เพราะได้รับข้อมูลมาว่าโทรศัพท์แตงโมมีภาพที่อันตราย 30 ภาพ เป็นคนมีชื่อเสียง และเป็นถึงเศรษฐีนักธุรกิจ ห่วงว่าจะมีการแบล็กเมล์ใครหรือไม่ ทั้งนี้ บังแจ็ค ยังเข้าประเทศไม่ได้เพราะเป็นบุคคลต้องห้าม มีคดีความมากมาย จะกลับได้ก็ปี 2569 โดยเพื่อนของตนได้สืบข้อมูลแล้วทราบว่าอยู่ ที่รัฐอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผู้สื่อข่าวถามว่า แม่ของแตงโมจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการเกี่ยวข้องว่าเป็นผู้ใช้ สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งแม่ต้องชี้แจงกับ ผบช.สอท.ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำดังกล่าว เพราะเมื่อคืนก็นัดหมายจะเข้าพบกันเรียบร้อยแล้ว แต่ในเมื่อถอนตัวแล้วก็ไม่มีอะไรต้องไปพบตำรวจไซเบอร์อีก

ทนายเดชาได้กล่าวเปิดใจอีกว่า ตนโดนทัวร์ลงมา 2-3 เดือนก็มีความทุกข์ ขอทัวร์ไปจอดที่อื่นบ้าง ตามจริงเย็นนี้มีนัดทนายตั้มและคนอื่นๆ อีก 7 คนไปฉลองเพราะหมดกรรมแล้ว แต่เนื่องจากติดธุระเลยไม่ไป อย่างไรก็ตาม ผมจะไม่ขอดำเนินคดีกับแม่ หากจะให้ทำอะไรก็ให้สาบานกับ ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ที่โบสถ์ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำงานตามพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ทำตามกระแส ยืนยันว่าไม่ได้รับเงินเพื่อถอนตัว ให้มาดูบัญชีได้เลย