CRIME

เปิดปากคำ ‘ปอ ตนุภัทร’ แจง ‘แตงโม’ พลัดตกน้ำเพราะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ยันไม่คิดหนีและเสียใจมาก

เปิดปากคำ ‘ปอ ตนุภัทร’ แจง ‘แตงโม’ พลัดตกน้ำเพราะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ยันไม่คิดหนีและเสียใจมาก รับทุกคนดื่มไวน์แต่ไม่เมา ในเรือมีห้องน้ำแต่ใช้เก็บของ

นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ท เปิดเผยหลังเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรกโดยเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้นัดไปทานอาหารกัน และขับเรือมาที่สะพานพระราม 8 เพื่อมาถ่ายรูปกับสะพานพระราม 8 เพราะโมกับกระติก ชอบถ่ายรูปเพราะตรงนี้ภาพสวย

“จุดที่ถ่ายรูปครั้งสุดท้าย คือ ที่สะพานพระราม 8 โมนั่งถ่ายรูปหน้าเรือ ผมเองไม่เห็นว่าเขาไปนั่งอยู่ตรงไหน เขาเดินผ่านไป ผมอยู่หน้าเรือ แต่สิ่งที่ผมได้รับฟังมาจากแซน ว่าโมนั่งอยู่ท้ายเรือ ให้ข้อมูลว่า คุณโมจับขาคุณแซนเพราะคุณแซนนั่งอยู่ท้ายเรือและยืดขาออกไป คุณโมจับขาคุณแซนไว้ แล้วคุณโมนั่งปัสสาวะ นี่คือ สิ่งที่ผมได้ข้อมูลจากคุณแซน พอคุณโมลุกขึ้นมาเสื้อเปียกน้ำ จังหวะนั้นเหมือนโดนคลื่น ทำให้เขาตก แต่ไม่ได้ตกแล้วหายเลย ตกแล้วเหมือนคุณโมพยายามจับด้านข้างเรือไว้ แล้วก็ตกลงไป สิ่งที่เรารับรู้ข้อมูลต่อ คือ คุณแซนตะโกนว่าโมตกน้ำ คนที่นั่งติดกับคุณโม คือ คุณจ๊อบ คุณจ๊อบก็บอกว่าพี่ หยุดเรือ โมตกน้ำ เราก็หักเรือ กลับไปหาโมทันที แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เราไม่เห็นโม เราวนอยู่ตรงนั้น หลายชั่วโมง พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ครับ”

นายตนุภัทร กล่าวทั้งน้ำตายืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือเลย เพราะมีเสียงเครื่องยนต์อยู่ท้ายเรือ และเรือจะมีลำโพงใหญ่ 4 ตัว กำลังเปิดเพลง ทำให้ได้ยินเสียงยากมาก และเรือมีชูชีพครบ แต่ขณะเกิดเหตุไม่มีใครใส่เสื้อชูชีพ ส่วนตัวเองยืนยันว่า ไม่เห็นขณะที่แตงโมตกเรือ เพราะอยู่ด้านหน้าเรือ คนที่เห็นคือ เพื่อนที่ชื่อ แซน

“สิ่งแรกที่เกิดขึ้น เราทุกคนช็อกว่าคือเรื่องจริงเหรอ เพื่อนเราหายไป เราตกใจ เราก็วนกลับไปดูที่จุดนั้น ดูแล้วก็วนหา ตะโกนเรียกหากัน ผมคิดว่าระยะเวลาการหาครั้งแรก 15-20 นาที ระหว่างนั้นผมทำหน้าที่ขับ ผู้ชายสองคนโหนเรือแล้วเอาไฟส่อง ส่วนผู้หญิงที่อยู่บนเรือ กระติกกับคุณแซน พยายามโทรศัพท์ ตอนนั้นผมแจ้ง 191 แจ้งกู้ภัย ตัวผมรู้จักท่าเรือ NBC เพราะผมรู้จักเจ้าของท่าจอดเรือ เขาก็เอาเรือออกมาช่วยทันที แล้วก็จะมีเพื่อนติดต่อคนชื่อคุณโบ เขาประสานคุณบีมมา นั่นคือ สิ่งที่เราทำได้ ณ เวลานั้น”

นายตนุภัทร ยืนยันว่าคืนนั้นรับประกันว่าไม่เมา แต่มีดื่มไวน์ เรียนตรงๆ ว่า เท 6 แก้ว แต่คนดื่มมากดื่มน้อยแตกต่างกันไป ส่วนตัวดื่มตั้งแต่ร้านอาหารแล้ว

“เราพยายามขับเรือ ประกาศให้คนอยู่ด้านข้างตลิ่งช่วยกันหา ช่วยกันดู แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เรือที่หามีเราลำเดียว ตอนนั้นทุกคนอยู่บนเรือหมด ตอนเกิดเหตุ แต่เราวนหา จอดปุ๊บ คุณแซนเดินมาบนฝั่ง จุดที่คุณโมตก ผมพร้อมชี้จุด เพราะจุดเรามาร์คไว้แล้ว คุณแซนเป็นคนเห็น ส่วนที่บอกว่าไม่มีคนอยู่ ตอนเกิดเหตุทุกคนอยู่บนเรือ คนที่อยู่ด้านหน้าเรือไม่มีทางเห็นเลย แต่คุณโมอยู่ด้านท้ายเรือกับคุณแซน คนรู้คือคุณแซนคนเดียว พอตกปุ๊บเขาก็ตะโกนเลย”

นายตนุภัทร ยืนยันว่า ไม่รู้เรื่องที่ระบุว่าแตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือ และคนเรือชื่อคุณเบิร์ด ไม่ได้ขับเร็วเกินไป ถ้าดูจากการเดินทาง จากปทุมธานี มาถึงสะพานพระราม 8 ถึงชั่วโมงกว่า เป็นการขับเรือที่ช้ามาก ทั้งๆ ที่ เรือยี่ห้อนี้มีมาตรฐานค่อนข้างสูง พื้นเรือเป็นลักษณะขรุขระอยู่แล้ว ไม่ใช่เรือที่จะลื่นได้”

ส่วนกรณีที่สงสัยว่าทำไมแตงโม ต้องไปปัสสาวะท้ายเรือ ซึ่งในเรือมีห้องน้ำ แต่มีของอยู่ในเรือ ซึ่งถ้ามีคนต้องการใช้ห้องน้ำ ก็สามารถย้ายของออกแล้วไปนั่งปัสสาวะได้ ห้องน้ำยังสามารถใช้การได้ แต่ปกติคนใช้เรือประเภทนี้จะไม่ใช้ห้องน้ำกัน จะเข้าห้องน้ำมาก่อนค่อยลงเรือ อย่างตนเองไปกินข้าวก่อนลงเรือจะเข้าห้องน้ำ ซึ่งทุกคนเข้าห้องน้ำที่ร้านอาหาร มีเพียงแตงโมคนเดียวที่ไม่ได้เข้าห้องน้ำ ซึ่งเพิ่งเคยปัสสาวะในเรือครั้งแรก และไม่ทราบว่าแตงโม จะเข้าห้องน้ำ

นายตนุภัทร ยืนยันว่าไม่ได้จะปิดข่าว แต่ไม่ใช่เป็นคนแจ้งเหตุ อาจไม่รู้รายละเอียด และได้ค้นหาตั้งแต่สี่ทุ่มจนเกือบตีสองก็กลับ ส่วนเหตุที่เพิ่งมาปรากฏตัวเพราะความกลัวที่เพื่อนหายไปอย่างกระทันหัน

ถามว่าเรื่องที่ไปแจ้งเหตุ ตร.ทำไมเหลืออยู่คนเดียว ถามว่าจะปิดข่าวหรือเปล่า อันนี้ขอถามนิดนึง ผมไม่ใช่คนแจ้ง อาจไม่รู้ดีเทล ตอนนั้นผมกลับแล้ว เพราะผมหาตั้งแต่ 4 ทุ่ม เกือบๆ ตีสองก็กลับ เพราะผมหาไม่หยุดเลย

“ผมเรียนพี่นักข่าวครับ ถ้าพี่นักข่าวอยู่กับเพื่อน อยู่เฉยๆ ไม่ถึง 1-2 นาที เพื่อนเราคนนี้หายไป ผมถามว่าพี่จะมีสติจะมาตอบสังคมแบบนี้ ผมเชื่อว่าไม่มีใครทำได้ เราไม่ได้หลีกหนี เรียนด้วยความเคารพครับ ผมนอนยังนอนไม่ได้ หลับตาเราก็ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไปเจอเพื่อนเก่า มีความสุข แล้วอยู่เฉยๆ ก็หายไปไม่มีคำตอบ และผมไม่รู้ต้องไปแจ้งความที่ไหน พื้นที่ตรงนั้นอยู่ตรงพื้นที่ไหนก็ไม่รู้ นี่คือเหตุผลที่ว่าขอให้ตั้งสติ และมาให้ข้อมูลกับตำรวจ”

นอกจากนี้ นายตนุภัทร ยืนยันว่าแตงโมไม่ได้เมา แม้ทั้ง 6 คนจะดื่มไวน์ แต่ไม่เยอะ มั่นใจว่าไม่เมา 100 เปอร์เซ็นต์ และยืนยันว่า รู้สึกเสียใจ รู้สึกแย่มากที่สุดในชีวิตว่าเพื่อนที่ไปกินข้าวกันอยู่เฉยๆ ก็หายไป

ส่วนสาเหตุที่จะไปปรึกษานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเพราะเพื่อนแนะนำ ซึ่งเหตุที่กลัว เพราะการพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครไม่ตกใจ และยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องโทรศัพท์ของแตงโม ว่าอยู่ในกระเป๋าหรืออยู่ที่ใคร รวมถึงที่ตำรวจโทรไปแล้วไม่ได้รับ และเรือที่ใช้อยู่เป็นเรือถูกต้อแต่เพิ่งรู้ว่าภาษีขาด

เมื่อถามว่าทำไมต้องกลัว ในเมื่อเป็นอุบัติเหตุ ‘ปอ’ กล่าวว่า “พี่ครับ คนเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมมั่นใจครับ ไม่มีใครไม่ตกใจ เรากลัวทุกอย่าง แต่ที่เรามาบอกตรงนี้ เรามาบอกความจริง”

“ผมพูดตรงๆ ผมขอความเห็นใจ ผมเสียเพื่อนคนนึงที่หายไป ตอนนี้อยากขอทุกคน ขอให้ตั้งจิต ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ให้หาเพื่อนเจอ ขอให้ทุกคนเห็นใจกับเจตนาที่พวกเราไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนเห็นใจด้วยว่า ขอให้โมกลับมาครับ” นายตนุภัทร กล่าวทั้งน้ำตา

Related Posts

Send this to a friend